รีเซต

อิตาลีสร้างหุ่นยนต์ไล่ราในไร่องุ่น ฉาย UV ว่องไวทันใจเกษตรกร

อิตาลีสร้างหุ่นยนต์ไล่ราในไร่องุ่น ฉาย UV ว่องไวทันใจเกษตรกร
TNN ช่อง16
20 กุมภาพันธ์ 2567 ( 00:41 )
50
อิตาลีสร้างหุ่นยนต์ไล่ราในไร่องุ่น ฉาย UV ว่องไวทันใจเกษตรกร

เกษตรกรที่ต้องต่อสู้กับปัญหา "รา" เกาะกินพืชผลบ่อย ๆ เชื่อว่าคงถูกใจหุ่นยนต์ตัวนี้ที่มีชื่อว่า อิคาโร เอ็กซ์โฟ (ICARO X4) หุ่นยนต์ที่จะช่วยปกป้องผลผลิตในไร่องุ่น ให้สามารถต่อสู้กับเชื้อราและโรคราน้ำค้าง ด้วยการฉายรังสี UV-C ทำให้ไม่ต้องใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงที่เป็นอันตราย ลดความเสี่ยงเรื่องของสารตกค้างบนผลไม้ได้อีกด้วย


ภาพจาก Maschio Gaspardo

 

อิคาโร เอ็กซ์โฟ (ICARO X4) เป็นหุ่นยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ 4 ล้อ พัฒนาโดยบริษัท มาสคิโอ กัสปาร์โด (Maschio Gaspardo) บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับการเกษตรจากประเทศอิตาลี ตัวหุ่นยนต์ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2 สูบขนาดเล็กและใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ โดยมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จะช่วยชาร์จพลังงานให้เมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย โดยบริษัทเคลมว่าตัวหุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องนานถึง 72 ชั่วโมง หรือประมาณ 3 วัน


ตัวหุ่นยนต์ถูกออกแบบมาให้ทำงานในไร่องุ่นได้อย่างอิสระ โดยมีระบบนำทางด้วยดาวเทียม พร้อมด้วยเซนเซอร์ 3 มิติสำหรับตรวจจับสภาพแวดล้อมโดยรอบ และระบบอัลกอริทึมภายใน ที่จะช่วยในการประมวลผลสำหรับสั่งการดูแลพืชผลต่าง ๆ 


โดยระบบจะเลือกเวลาที่ดีที่สุดในการฉายรังสี เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นอันตราย จากข้อมูลรูปแบบสภาพอากาศ ที่ได้รับการวิเคราะห์เฉพาะพื้นที่ รวมถึงระดับความชื้น และอุณหภูมิ ที่ตัวหุ่นยนต์เก็บรวบรวมข้อมูลเอาไว้


ภาพจาก Maschio Gaspardo

 

เมื่อระบบตัดสินใจว่าจะเริ่มฉายรังสีแล้ว มันก็จะกางแผงสร้างรังสี UV-C ขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ที่ทั้งสองด้านระหว่างเพลารถออกมา โดยแผงนี้สามารถพับและกางออกมาได้เหมือนปีก ซึ่งหุ่นยนต์จะกางแผงนี้ออกมาห่างจากจุดที่ต้องการฉายรังสีไม่กี่เซนติเมตร 


บริษัทระบุว่า การใช้รังสี UV-C ซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความยาวคลื่น 100-280 นาโนเมตร และมีความสามารถในการทำลายเชื้อโรค จะช่วยกระตุ้นกลไกทางชีวภาพที่ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของพืช นอกจากนี้ยังทำลาย DNA ของเชื้อโรค เช่น โรคราแป้ง โรคราน้ำค้าง และป้องกันไม่ให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อเหล่านี้บนพืชอีกด้วย


โดยหุ่นยนต์ อิคาโร เอ็กซ์โฟ (ICARO X4) แต่ละตัว จะสามารถดูแลไร่องุ่นได้ถึงประมาณ 37 เอเคอร์  หรือราว 9.3 ไร่ ซึ่งอาจช่วยลดการใช้ยาฆ่าเชื้อราเคมีในฟาร์มได้ถึงร้อยละ 70 ส่วนใครที่สนใจ ปัจจุบันบริษัทประกาศแผนวางจำหน่ายแล้วในราคาตัวละ 115,000 ยูโร หรือราว 4 ล้าน 4 แสนบาท




ข้อมูลจาก electrek, futurefarmingpharmacy.mahidol

ข่าวที่เกี่ยวข้อง