รีเซต

สธ.เช็กยิบปม"แหม่มฝรั่งเศส"โควิด เก็บเชื้อช่องแอร์-ระบบน้ำทิ้งโรงแรม

สธ.เช็กยิบปม"แหม่มฝรั่งเศส"โควิด เก็บเชื้อช่องแอร์-ระบบน้ำทิ้งโรงแรม
มติชน
7 พฤศจิกายน 2563 ( 08:20 )
192
สธ.เช็กยิบปม"แหม่มฝรั่งเศส"โควิด เก็บเชื้อช่องแอร์-ระบบน้ำทิ้งโรงแรม

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน กรณีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในหญิงชาวฝรั่งเศส ตรวจพบเชื้อภายหลังที่ออกจากสถานกักกันโรค 14 วัน พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กล่าวเมื่อวันที่ 6 พย.ที่ผ่านมาว่า การสอบสวนโรคเพิ่มเติมกรณีหญิงชาวฝรั่งเศส อายุ 57 ปี ที่เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เริ่มมีอาการป่วย ขณะนั้นได้ออกจากสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine) ใน จ.สมุทรปราการ ไปแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ตรวจหาเชื้อ และเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ผลการตรวจยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการสอบสวนโรคผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและต่ำไม่พบเชื้อทุกราย หลังจากนั้นมีการตรวจเชื้อในสิ่งแวดล้อมพบซากเชื้อไวรัสในห้องฟิตเนส ไม่สอดคล้องกับผู้ติดเชื้อรายนี้ จึงเป็นคำถามว่าผู้ติดเชื้อชาวฝรั่งเศสติดเชื้อจากที่ใด

 

พญ.วลัยรัตน์กล่าวว่า การสอบสวนโรคพบผู้ติดเชื้อในเวลาใกล้เคียงกันรวมหญิงชาวฝรั่งเศส จำนวน 3 ราย ถอดรหัสพันธุกรรมทั้งสาย พบว่าเป็นสายพันธุ์เดียวกัน จึงเชื่อว่าทั้ง 3 ราย เกี่ยวข้องกัน จึงได้สอบสวนโรคทบทวนอีกครั้งในระบบที่อาจเป็นจุดที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อในโรงแรม โดยวิศวกรเชี่ยวชาญจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ร่วมกับทีมพยาบาล จากสถาบันบำราศนราดูร ตรวจสอบใน 3 ระบบ คือ 1.ระบบแอร์ 2.ระบบถ่ายเทอากาศ มีพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ และ 3.ระบบน้ำทิ้ง ระบบ core I-Tap ในแต่ละห้อง ท่อชาร์ปวิ่งในแนวดิ่ง ไม่ข้ามฝั่งไปยังห้องตรงข้าม แต่จะคู่กับห้องที่ติดกัน โดยห้อง 605 คู่กับ 607 และ 609 คู่กับ 611

 

พญ.วลัยรัตน์กล่าวว่า ห้องที่ผู้ติดเชื้อทั้ง 3 ราย พักอยู่ใกล้กัน คือ รายที่ 1 พักห้อง 609 เข้าพักเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม รายที่ 2 พักห้อง 631 เข้าพักเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม และตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม และหญิงฝรั่งเศสพัก ห้อง 607 ออกจากสถานกักกันฯ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ดังนั้นช่วงเวลาที่ทั้ง 3 ห้องอยู่ร่วมกันคือ วันที่ 12-15 ตุลาคม

 

จึงเก็บตัวอย่างเชื้อจากช่องลม ช่องแอร์เพื่อไปหาว่าสามารถแพร่เชื้อระหว่างห้องได้หรือไม่ หรือมีการรั่วซึมของท่อหรือไม่ ขณะนี้ มีข้อสันนิษฐานว่า ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายที่ 1 ที่พักห้อง 631 เปิดประตูออกไปบริเวณโถงทางเดินที่ไม่มีระบบระบายอากาศ แล้วเชื้อโควิด-19 จะอยู่ในอากาศบริเวณนั้น ซึ่งไวรัสมีความสามารถอยู่ในอากาศที่นิ่งได้นานถึง 3 ชั่วโมง ระหว่างห้องตรงข้ามกัน มีความกว้างโถงทางเดิน 1.8 เมตร และหน้าห้องแต่ละห้องมีโต๊ะสำหรับวางอาหาร จากข้อสันนิษฐาน อาจเป็นไปได้ว่า เมื่อเชื้อจากรายที่ 1 ลอยออกจากห้องไปแล้ว ไปตกอยู่บนโต๊ะ หรือหากมีอาหารวางหน้าห้อง ก็จะลอยไปติดอยู่บนภาชนะ ซึ่งเป็นเพียงข้อสันนิษฐานว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าเชื้อโรคจะติดต่อบริเวณหน้าห้อง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อทั้ง 3 รายว่าในระหว่างที่ออกมานอกห้อง ได้สวมหน้ากากอนามัยหรือแตะอะไรหรือไม่ และรอผลการตรวจหาเชื้อในระบบช่องแอร์ ช่องอากาศ เพื่อหาข้อสรุปต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง