'กสทช.' จ่อชง 'บอร์ดดีอี' คลอดโครงการหนุนเลิร์นฟรอมโฮม ยันทำโปร่งใส
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า โครงการให้สิทธิประชาชนโทรฟรีทุกเครือข่ายจำนวน 100 นาที เป็นโครงการที่รัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการเพิ่มอินเตอร์เน็ตมือถือฟรี 10 กิกะไบต์ และอัพสปีดอินเตอร์เน็ตบ้านเป็น 100 เมกะบิต
โดยประชาชนจะสามารถกดรับสิทธิได้ตั้งแตค่วันที่ 1-15 พฤษภาคม 2563 โดยมีระยะเวลาการใช้งานได้ 45 วัน ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ กสทช. ขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) เพื่อให้การสนับสนุน โดยไม่ได้มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการแต่อย่างใด
นายฐากร กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการเพิ่มอินเตอร์เน็ตมือถือฟรี 10 กิกะไบต์ มีผู้ขอรับสิทธิ จำนวน 13.9 ล้านเลขหมาย โดยผ่านการพิจารณาแล้ว 13.1 ล้านเลขหมาย ซึ่งคาดว่า เมื่อสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 เมษายน 2563 จะมีผู้ขอรับสิทธิประมาณ 15 ล้านเลขหมาย คิดเป็นวงเงินประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งไม่เต็มกรอบวงเงินที่ตั้งไว้
“กสทช. ดำเนินการทุกโครงการด้วยความโปร่งใส เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนให้ได้รับการแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดที่สุด ซึ่งเดิม กสทช. ต้องการทำโครงการเป็นเวลา 3 เดือน แต่โอเปอเรเตอร์ไม่รับทำโครงการ เพราะรายได้ที่เกิดขึ้นไม่เพียงพอต่อการบริหารต้นทุน” นายฐากร กล่าว
นายฐากร กล่าวว่า ส่วนที่ถามว่าทำไมไม่นำเงินที่สนับสนุนโครงการเพิ่มอินเตอร์เน็ตมือถือฟรี 10 กิกะไบต์ ให้กับประชาชน ไปบริจาคให้โรงพยาบาล ขอชี้แจงว่า โครงการนี้ ต้องการสนับสนุนให้ประชาชนอยู่บ้าน ตามมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ของรัฐบาล ประกอบกับมีประชาชนต้องการทำงานที่บ้าน จึงควรได้รับการสนับสนุนการใช้งานอินเตอร์เน็ต ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิจะต้องได้รับบริการที่มีความเร็วตรงตามที่กำหนดไว้ในโครงการ หากประชาชนได้รับอินเตอร์เน็ตในความเร็วที่ไม่ตรงตามกำหนดให้ร้องเรียนมาที่ กสทช.
นอกจากโครงการเพิ่มอินเตอร์เน็ตมือถือฟรี 10 กิกะไบต์ และอัพสปีดอินเตอร์เน็ตบ้านเป็น 100 เมกะบิตรวมถึงโครงการโทรฟรี ทุกเครือข่ายจำนวน 100 นาที ยังมีโครงการ อาทิ โครงการสนับสนุนอินเตอร์เน็ตให้กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษากว่า 1.7 ล้านคน สามารถใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการเรียนออนไลน์ รวมถึงการสนับสนุนนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่ต้องได้รับการสนับสนุนเพื่อเรียนทางไกลด้วยโทรทัศน์ภาคพื้นดิน โทรทัศน์ดาวเทียม โดยอยู่ระหว่างการนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) รวมถึงการสนับสนุนโรงพยาบาลเพื่อการใช้งานด้านโทรคมนาคมให้กับสถานพยาบาลด้วย