ชาติเอเชียรวมถึงไทย จ่อนำเข้าพลังงานจากสหรัฐเพิ่ม หวังลดผลกระทบ "ภาษีทรัมป์"

จับตาการเจรจาต่อรองของประเทศต่างๆกับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ ที่อยู่ระหว่างการระงับใช้ชั่วคราว 90 วัน
ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย กำลังมองหาแนวทางที่จะซื้อน้ำมันและก๊าซจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นลดความรุนแรงจากการนโยบาย "ภาษีทรัมป์" ที่ตั้งกำแพงเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าสหรัฐฯในอัตราสูง เนื่องจากประเทศในเอเชียหลายแห่งมียอดการค้าเกินดุลกับสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมาก และยังเป็นผู้นำเข้าพลังงานรายใหญ่ด้วย ซึ่งขณะนี้ตัวแทนของหลายประเทศในเอเชียต่างก็มุ่งหน้าสู่กรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อเจรจาภาษีศุลกากรกับสหรัฐฯ รวมถึงประเทศไทย
"ประเทศไทย" เป็นประเทศล่าสุดในเอเชียที่กำลังพยายามซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมแนวทางดำเนินการของไทย ต่อกรณีนโยบายการค้าของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (16 เมษายน 2568 ) ว่า จากการหารือกับบมจ. ปตท. (PTT) นั้น ในเบื้องต้นไทยวางแผนที่จะนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ เพิ่มเติมอีกกว่า 1 ล้านตันภายในระยะเวลา 5 ปี มูลค่าราว 600 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบันไทยได้มีการทำสัญญาซื้อขายก๊าซ LNG จากสหรัฐฯ อยู่แล้วปีละ 1 ล้านตัน มูลค่าปีละ 500 ล้านดอลลาร์ ระยะเวลา 15 ปี
นายพิชัย ยังกล่าวด้วยว่า ไทยมีแผนที่จะนำเข้าก๊าซอีเทนจากสหรัฐฯ ในปริมาณ 4 แสนตัน มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ ในระยะเวลา 4 ปี ซึ่งถือเป็นการซื้อขายระยะยาว โดยในส่วนนี้ถือเป็นความจำเป็นสำหรับประเทศไทย เนื่องจากก๊าซอีเทน เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตปิโตรเคมี และถือเป็นต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่าการใช้น้ำมันดิบ ที่แม้ปัจจุบันจะสามารถผลิตได้ในอ่าวไทย แต่ก็ไม่ค่อยเพียงพอแล้ว
นอกเหนือจากไทยแล้ว "ประเทศอินเดีย" ก็กำลังพิจารณาข้อเสนอให้ยกเลิกภาษีนำเข้าก๊าซ LNG จากสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มการซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ อีกทั้งจะช่วยลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญของประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมกันนี้อินเดียยังมีแผนที่จะยกเลิกภาษีการนำเข้าอีเทนและก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) จากสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมี "ปากีสถาน" ที่กำลังพิจารณานำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก เพื่อชดเชยความไม่สมดุลทางการค้าที่เป็นเหตุให้ถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน "อินโดนีเซีย" ก็มีการวางแผนที่จะเพิ่มการนำเข้าพลังงานจากสหรัฐฯ บาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า อินโดนีเซียจะยื่นข้อเสนอเพิ่มการนำเข้าน้ำมันดิบและก๊าซ LPG จากสหรัฐฯ เป็นมูลค่าราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการเจรจาด้านภาษีกับสหรัฐฯ พร้อมกับกล่าวว่า กระทรวงพลังงานอินโดนีเซียได้แนะนำให้เพิ่มโควตาการนำเข้าก๊าซ LPG จากสหรัฐฯ รวมทั้งการนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้อินโดนีเซียสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว