MASTER หุ้นมีสตอรี่! 'หยวนต้า' แนะทยอยสะสม
#ทันหุ้น - บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ออกบทวิเคราะห์ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER มองว่า PER68 ไม่แพง เป็น Top pick Q4/67
โดยราคาหุ้นปรับตัวลงราว 25% จากเดือน ก.ค. จากความผิดหวังงบ Q2/67 แต่ฝ่ายวิจัยมองว่าเป็นผลในระยะสั้นจากการใช้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดจำนวนมากเพื่อสร้างยอดขายใน 2H67 รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมยังไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งประเด็นดังกล่าวคลี่คลายในทางบวกใน Q3/67 และเร่งตัวขึ้นในช่วง Q4/67 ทำให้ที่ระดับปัจจุบันมองว่าน่าสนใจสะสม เนื่องจากปัจจุบันซื้อขายที่ PER67 – 68 ที่ 26.6 เท่า และ 23.8 เท่าตามลำดับ เทียบเท่าในอดีตเคยสูงถึง 35–40 เท่า บนประมาณการที่ค่อนข้างระมัดระวัง
ฝ่ายวิจัยมองว่าประมาณการกำไรปี 2568 มี Upside risk จากลูกค้าต่างประเทศ และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ดยให้คงเดิมที่ 68.50 บาท ซึ่งจะเทียบเท่า PER ในการประเมินมูลค่าลดลงจาก 40.00 เท่า เป็น 35.75 เท่า คงคำแนะนำ ซื้อ คาดย้ายเข้าซื้อขายตลาด SET ใน Q4/67 และมีโอกาสเข้า SET100 ใน Q4/68 ฝ่ายวิจัยให้เป็น Top pick ประจำ Q4/67
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าแนวโน้ม Q3/67 กลับมาโตทั้ง QoQ และ YoY กำไรสุทธิ Q3/67 ที่ 113 ลบ. (+28.6% QoQ, +12.8% YoY) คาดรายได้หลักที่ 515 ลบ. (+0.9% QoQ, +7.5% YoY) โดยรายได้ในเดือน ก.ค. ทำระดับสูงสุดใหม่ แต่แผ่วลงในช่วงปลายไตรมาสจากผลกระทบอุทกภัยในภาคเหนือทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ชะลอการเข้ารับทำหัตถการออกไป โดยลูกค้ากลุ่มนี้มีสัดส่วนราว 10% ของรายได้ในประเทศทั้งหมด ซึ่งมีการเก็บเงินมัดจำแล้วทำให้โอกาสยกเลิกค่อนข้างน้อย และคาดว่าจะกลับเข้ารับบริการใน Q1/68 เป็นอย่างช้า ส่วน GPM คาดที่ 58% ทรงตัว YoY และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จากสัดส่วนรายได้ต่างชาติที่สูงขึ้น ส่วน SG&A คาดจะควบคุมได้ดีในไตรมาสนี้ เนื่องจากใช้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดค่อนข้างมากไปแล้วใน 1H67 ฝ่ายวิจัยคาด SG&A/Sales ที่ 34.0% ลดลงจาก 38.6% ใน Q2/67 แต่ทรงตัว YoY ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดที่ 13 ลบ. เพิ่มขึ้น 96% QoQ ส่วน YoY ไม่มีส่วนนี้ใน Q3/66 ทั้งนี้จากการ Turnaround ของ V Square และ TYP ส่วน Wind ขาดทุนลดลง นอกจากนี้เป็นไตรมาสแรกที่เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งจาก S45
ด้าน Q4/67 มีโอกาสสูงทำกำไรจะทำระดับสูงสุดใหม่ สำหรับรายได้ในเดือน ต.ค. ค่อนข้างสูงเนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วง High season โดยมีโอกาสทำรายได้แตะระดับสูงสุดใหม่ ส่วนยอดจองล่วงหน้าเดือน พ.ย. ดีกว่าเดือน ต.ค. ทำให้มีโอกาสสูงที่รายได้ใน Q4/67 ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ราว 600 ลบ. ขึ้นไปได้ โดยคาดลูกค้าในประเทศฟื้นตัวและลูกค้าต่างประเทศเติบโตสูงโดยเฉพาะกลุ่มอินโดนีเซียที่ได้รับความนิยมสูงมากในกลุ่มศัลยกรรมจมูก หน้าอก และปลูกผม ขณะที่ GPM มีโอกาสสูงขึ้นได้อีกจาก Economy of scales และลูกค้าต่างชาติจะมีรายได้ต่อบิลค่อนข้างสูง ส่วน SG&A คาดทรงตัว QoQ แต่ SG&A/Sales จะลดลงตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น หนุน NPM นอกจากนี้ยังเป็น High season ของบริษัทย่อยเกือบทุกบริษัท และเริ่มมีรายได้จาก BEQ, TSC และ Aurora Clinic เป็นไตรมาสแรก โดยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมอาจแตะระดับ 20 ลบ. ได้ นอกจากนี้จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ของโรงพยาบาล ร่วมกับ Partner ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการ คาดกำไรสุทธิ Q4/67 เบื้องต้นที่ 200 –220 ลบ.