เหมาหมดทั้งร้าน ลุง 64 สับสนเหยียบเบรกกลายเป็นคันเร่ง พุ่งชนแหลก
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ร.ต.ท.ธีรวัต พรประสิทธิ์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถยนต์พุ่งเข้าไปชนยังภายในร้านค้าขายอาหารเวียดนาม ตั้งอยู่ริมถนนเทพคุณากร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา (เส้นทางเข้าวัดโสธร) ทำให้มีทรัพย์สินภายในร้านพังเสียหายเป็นจำนวนมาก และยังมีรถยนต์ที่กำลังขับผ่านเส้นทางได้รับความเสียหายไปด้วยอีก 1 คัน จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุที่ด้านบนตัวร้านค้า ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์แบบ 3 ชั้นครึ่ง เลขที่ 1135 ใกล้กับปากทาง ถ.เทพคุณากร ซ.10 พบรถยนต์กระบะแบบตอนเดียวคันสีเขียว หมายเลขทะเบียน รษ-920 กรุงเทพฯ พุ่งขึ้นไปชนกับโต๊ะเก้าอี้ ตู้เย็น อุปกรณ์ร้านค้าอาหาร ตู้ปลาและกระถางต้นไม้ที่ใช้ตบแต่งร้านได้รับความเสียหาย มีสิ่งของปลิวกระจัดกระจายตกเกลื่อนพื้นไปทั่วบริเวณ
โดยที่ด้านหน้าของตัวรถได้พุ่งไปชนอัดติดอยู่กับหัวมุมของห้องน้ำภายในร้าน ซึ่งสูงจากระดับถนนประมาณเกือบ 1 เมตร สภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน ขณะเดียวกันที่ด้านนอกร้านค้า ฝั่งตรงข้ามเลยจากหน้าร้านไปประมาณ 35 เมตร พบมีรถยนต์กระบะนิสสันแบบแค็บสีดำ หมายเลขทะเบียน 2ฒภ-3754 กรุงเทพฯ ถูกพุ่งชนที่ด้านข้างของตัวรถบริเวณกึ่งกลางคัน จนยุบบุบเข้าไปเป็นหลุมขนาดใหญ่ใกล้กับประตูหน้าซ้ายและขอบกระบะ
สอบถามนายเผียน โฉมศิริ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ม.12 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ขับรถมาส่งเพื่อนบ้านที่นำรถกระบะบรรทุกแบบ 6 ล้อเล็ก มาซ่อมไว้ยังที่อู่ซ่อมรถ ด้านฝั่งตรงข้ามกับร้านค้าอาหารเวียดนามแห่งนี้ เพื่อที่จะมารับรถขับกลับไป หลังจากช่างได้ทำการซ่อมเสร็จแล้ว
แต่เมื่อตนกำลังจะขับรถคันที่ขับมาส่งเพื่อนบ้านออกไปจากอู่ เพื่อเดินทางกลับบ้าน ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อตัวรถได้พุ่งทะยานออกไปจากอู่อย่างรวดเร็วแบบไม่รู้ตัว ซึ่งตนเองได้พยายามที่จะเหยียบเบรกหยุดรถไว้แต่ตัวรถกับยิ่งมีความแรงมากขึ้น จนพุ่งเข้าไปชนกับรถยนต์กระบะที่กำลังขับผ่านเส้นทางมาพอดีจนตัวรถของฝ่ายตรงข้ามเสียหาย
ก่อนที่ตัวรถจะพุ่งขึ้นมาหยุดแน่นิ่งอยู่ที่ด้านบนของร้านค้าดังกล่าวแล้ว ซึ่งตนเองก็ยังคงงุนงงอยู่ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก และยอมรับว่าอาจจะเกิดจากความผิดพลาดสับสนขึ้น ในระหว่างที่ตนเองกำลังเหยียบเบรก แต่ปลายเท้าได้ไปแตะเหยียบเข้าที่คันเร่งแทน นายเผียน กล่าว
ขณะที่ น.ส.สุวิมล สุขถนอม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.1 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของรถคันที่ถูกพุ่งชน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุกำลังเดินทางจากบ้านมุ่งหน้ามาทำธุระกรรมยังที่ตัวอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา โดยได้ให้ นายปัญญา ประชุมพันธ์ อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านเป็นคนขับรถมาให้ จนมาประสบอุบัติเหตุถูกรถที่ขับออกมาจากข้างทางพุ่งเข้ามาชนที่กลางลำของตัวรถแต่โชคดีที่ไม่ถูกชนตรงประตูด้านซ้ายซึ่งเป็นจุดที่ตนนั่งมาในรถพอดี โดยที่คนขับคู่กรณีเขาได้ยอมรับผิดว่าเป็นฝ่ายที่พุ่งออกมาชนรถเรา
ด้าน น.ส.กรวิภา โฮ่สิริวันชัย อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า รถได้พุ่งขึ้นมาชนข้าวของที่ด้านบนร้านอย่างรวดเร็วมาก แบบไม่ทันตั้งตัว แต่โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรจากเหตุการณ์นี้ แต่ได้ทำให้ทรัพย์สินภายในร้านพังเสียหายจนหมด ซึ่งปกติตนเองเปิดร้านขายอาหารเวียดนาม เช่น แหนมเนือง ในทุกๆ วัน น.ส.กรวิภา กล่าว