รีเซต

พายุฝุ่นถล่มอเมริกา ผลพวงจากโลกร้อน หายนะที่มนุษย์สร้างขึ้น

พายุฝุ่นถล่มอเมริกา ผลพวงจากโลกร้อน หายนะที่มนุษย์สร้างขึ้น
TNN ช่อง16
10 มิถุนายน 2568 ( 12:00 )
16

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา เกิดพายุฝุ่นรุนแรงในพื้นที่ตอนกลางของรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา โดยมีความเร็วลมพัดสูงถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุลูกนี้พัดพาฝุ่นหนาแน่นปกคลุมพื้นที่เกษตรกรรมและถนนอย่างรวดเร็ว จนทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงถึงระดับอันตราย หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาของรัฐประกาศเตือนภัยพายุฝุ่นในพื้นที่นครชิคาโก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี สร้างความตระหนกให้แก่ประชาชน และทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนหลายจุด

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่สะท้อนถึงแนวโน้มของภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในพื้นที่เกษตรกรรม จากข้อมูลของหน่วยงานวิจัย พบว่าจำนวนพายุฝุ่นในแต่ละปีเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 34 ครั้งต่อปีในช่วงปี 1996–2010 เป็น 87 ครั้งต่อปีในช่วงปี 2011–2024 โดยรัฐที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ แอริโซนา แคลิฟอร์เนีย แคนซัส และเท็กซัส

นักวิทยาศาสตร์และนักสิ่งแวดล้อมเชื่อมโยงแนวโน้มที่น่ากังวลนี้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศร่วมกับรูปแบบการเกษตรเชิงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวโพดและถั่วเหลือง ซึ่งหลังจากการเก็บเกี่ยว พื้นที่เหล่านี้มักถูกปล่อยให้ว่างเปล่า ไม่มีพืชคลุมดินหรือแนวกันลมที่ช่วยยึดหน้าดินเอาไว้ ส่งผลให้ดินถูกลมพัดพาได้ง่าย ยิ่งเมื่ออากาศร้อนจัดและฝนตกน้อย ดินก็แห้งและเบา จนกลายเป็นฝุ่นละอองในอากาศ

โรเบิร์ต เฮิร์ชเฟลด์ ผู้อำนวยการด้านนโยบายทรัพยากรน้ำจากองค์กร Prairie Rivers Network กล่าวว่า “พายุฝุ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติ แต่คือหายนะทางนิเวศที่มนุษย์สร้างขึ้น ด้วยระบบเกษตรที่เร่งรีบ ใช้ประโยชน์จากที่ดินจนหมด โดยปล่อยให้ดินหลายล้านเอเคอร์เปิดโล่งและถูกกัดเซาะเป็นเวลานานครึ่งปี”

ผลกระทบของพายุฝุ่นรุนแรงและหลากหลาย ไม่เพียงแค่บดบังทัศนวิสัยและก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนถนนชนบทเท่านั้น แต่ฝุ่นละอองเหล่านี้ยังปนเปื้อนด้วยสารเคมี เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และโลหะหนัก ซึ่งถูกพัดเข้าสู่แม่น้ำลำคลอง ทำลายคุณภาพน้ำ และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในวงกว้าง ส่วนผลกระทบทางด้านสุขภาพนั้นก็อันตราย ฝุ่นที่ฟุ้งกระจายยังเป็นภัยต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหืด และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ซึ่งอาจอาการกำเริบอย่างเฉียบพลันในช่วงที่พายุฝุ่นเกิดขึ้น

นอกจากนี้ พายุฝุ่นยังเป็นภัยต่อความมั่นคงทางอาหารในระยะยาว การพัดพาหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์ออกจากพื้นที่เกษตร ส่งผลให้ผลผลิตลดลง การเพาะปลูกทำได้ยากขึ้น และต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น เกษตรกรบางรายอาจประสบความเสียหายจนไม่สามารถฟื้นตัวได้

แม้ว่าสหรัฐฯ จะมีโครงการอนุรักษ์ดินและน้ำ แต่ในปัจจุบันยังเป็นโครงการแบบสมัครใจและครอบคลุมไม่ทั่วถึง นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมเสนอว่า จำเป็นต้องมีนโยบายภาคบังคับหรือแรงจูงใจที่ชัดเจนเพื่อส่งเสริมการใช้พืชคลุมดิน การปลูกแนวไม้กันลม และการฟื้นฟูโครงสร้างดินให้เก็บความชื้นได้ดีขึ้น รวมถึงการลดการไถพรวนและใช้เทคโนโลยีเกษตรที่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในขณะที่โลกร้อนยังคงเร่งความรุนแรงของพายุฝุ่นขึ้นทุกปี สังคมต้องเร่งหาทางสร้างระบบเกษตรที่ยืดหยุ่น ทนต่อสภาพอากาศสุดขั้ว และเคารพต่อระบบนิเวศ เพื่อป้องกันไม่ให้ผืนดินซึ่งเป็นรากฐานของอาหารและชีวิต กลายเป็นเพียงฝุ่นผงที่ล่องลอยในอากาศ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง