MAJOR ขายหุ้นไทยทิคเก็ต รับกว่า 122 ลบ.บุ๊ค กำไร Q3

MAJOR แจ้งขายขายหุ้นไทยทิคเก็ตเมเจอร์ (TTM) ในสัดส่วน 20% ในราคาหุ้นละ 614.70 บาท หรือคิดเป็นมูลค่า 122.94 ล้านบาท บันทึกกำไรพิเศษไตรมาส 3/65 นี้ ผลงานครึ่งปีหลังสดใส หนังไทย-นอกทำเงินจ่อเข้าฉายเพียบ นำโดย Thor รวมถึง บุพเพสันนิวาส 2 คาดกระแสตอบรับดี ปัจจุบันเปิดให้บริการเต็ม 100% ยอดขายป๊อบคอนดี ปี 2566 ผลงานสดใส

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่า บริษัท แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัท โดยการเข้าทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นบริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด หรือ TTM เพื่อขายหุ้นสามัญที่ถืออยู่ในบริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำนวน 200,000 หุ้น หรือคิดเป็น 20% ให้กับ TICKETMASTER EUROPE HOLDCO LTD. ในราคาหุ้นละ 614.70 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 122.94 ล้านบาท ซึ่งจะบรรทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้นในช่วงไตรมาส 3/2565 ทั้งนี้บริษัทยังเหลือสัดส่วนการถือหุ้น ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำนวน 20%

ผลงานครึ่งปีหลังฟื้นตัว

อย่างไรก็ดีปัจจุบัน MAJOR ได้มีการเปิดให้บริการโรงหนังครบ 100% แล้ว และเชื่อการแพร่ระบาดโควิดขณะนี้จะไม่ส่งผลให้เกิดการปิดโรงภาพยนตร์อีก ดังนั้นคาดว่าผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้น เพราะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากฮอลีวู้ด ทยอยเข้าฉายต่อเนื่อง อย่างจูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร ท็อปกัน มาเวอริค ธอร์ เป็นต้น และยังมีหนังไทยอย่างเรื่องบุพเพสันนิวาส 2 เตรียมเข้าฉาย คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

ปัจจุบันต้องยอมรับว่า ถ้าเป็นหนังที่มีความน่าสนใจจะทำให้ลูกค้าเข้ามาชมที่โรงภาพยนตร์จำนวนมาก ขณะเดียวกันยังมีรายได้จากการจำหน่ายป๊อบคอร์นได้หลากหลายช่องทาง ทั้งเดลิเวอรี่ และได้เข้าไปจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา

“ครึ่งปีหลังผลงานน่าจะฟื้นตัวได้ดี เพราะว่ามีหนังที่เตรียมเข้าฉายหลายเรื่อง ทั้งต่างประเทศและไทย เพราะขณะนี้กำหนดการฉายหนัง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว จึงเห็นช่วงเวลาที่ฉายหนังชัดเจน แต่ต้องดูว่าช่วงนั้นมีหนังเรื่องไหนฉาย หากเป็นหนังที่ได้รับความนิยมก็จะมีคนชมจำนวนมาก ซึ่งมองว่าสถานการณ์โควิด ไม่น่าจะส่งผลให้เกิดการติดปิดโรงภาพยนต์ได้อีก ดังนั้นเชื่อว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังจะฟื้นตัว และปีหน้ามีแนวโน้มดีต่อเนื่อง” ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ กล่าว

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุถึง MAJOR ประกาศขายหุ้นที่บริษัทถือ TTM อยู่ 200,000 หุ้น หรือ 20% จากที่ถือหุ้นทั้งหมด 40% ในราคาหุ้นละ 614.70 บาท หรือคิดเป็นมูลค่า 122.94 ล้านบาท ให้กับ TICKETMASTER EUROPE HOLDCO LTD. ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท โดยบริษัทได้เข้าลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นของ TTM กับ TICKETMASTER EUROPE HOLDCO LTD. เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อ 21 กรกฎาคม 2565 คาดบริษัทจะบันทึกกำไรจากการขายหุ้นครั้งนี้ในไตรมาส 3 นี้เต็มจำนวนก่อนหักภาษี เนื่องจาก TTM มีผลขาดทุนสะสมเกินทุน
 

ช่วยเพิ่มกระแสเงินสด

ทั้งนี้มีมุมมองในการขายหุ้น TTM ครั้งนี้ ไม่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของ MAJOR แต่อย่างใด และยังช่วยทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดหมุนเวียนในธุรกิจเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ MAJOR ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดโอมิคอนที่ยังส่งผลให้ผลประกอบการปีนี้ฟื้นตัวไม่มาก

สำหรับผลประกอบการของ TTM ในช่วงปี 2563-2564  มีผลการดำเนินงานขาดทุนปีละ 35 บาท และช่วงก่อน COVID ในปี 2561-2562  มีผลการดำเนินเป็นกำไรสุทธิกว่า 70 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้น TTM อยู่ 20% ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไร/ขาดทุนลดลงในงบกำไรขาดทุนยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดผลประกอบการปีนี้เริ่มฟื้นตัวกลับมาเป็นกำไรได้จากสถานการณ์ COVID-19 ผ่อนคลายลงและหนัง Hollywood หลายเรื่องที่เตรียมเข้าฉาย