รีเซต

ญี่ปุ่นสั่งห้าม “ตั้งชื่อลูกแปลก” หลังผุด ปิกาจู - ไนกี้

ญี่ปุ่นสั่งห้าม “ตั้งชื่อลูกแปลก” หลังผุด ปิกาจู - ไนกี้
TNN ช่อง16
29 พฤษภาคม 2568 ( 17:45 )
11

กระแสการตั้งชื่อลูกแปลก (ขึ้นเรื่อย ๆ) ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ที่ญี่ปุ่นพบว่า ไม่กี่ปีมานี้ มีความนิยมในการตั้งชื่อลูกที่แปลกจากชื่อดั้งเดิมไปมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น “ไนกี้” “ปิกาจู” หรือ “พุดดิ้ง” หลังจากที่พ่อ-แม่ยุคใหม่เริ่มปฏิเสธการตั้งชื่อลูกตามแนวทางดั้งเดิม และแสวงหาความ “ยูนีค” ให้กับลูก ๆ ของตนเองมากขึ้น

แต่การตั้งชื่อแปลก ๆ นี้ก็นำมาสู่การถูกวิจารณ์อยู่ไม่น้อย เพราะมีหลายกรณีที่สร้างความสับสนงุนงงให้กับโรงพยาบาล, โรงเรียน และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะต้อง “ออกเสียง” ชื่อเด็ก ๆ เหล่านี้ว่าอย่างไร

รัฐบาลญี่ปุ่นจึงประกาศจำกัดการตั้งชื่อแบบ “คิระคิระ” (kirakira) ที่แปลว่า “เปล่งประกาย” ที่มักจะมีการออกเสียง หรือเขียนด้วยอักขระที่แปลกใหม่ และไม่เป็นไปตามธรรมเนียมดั้งเดิมของประเทศ โดยกฎใหม่นี้เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (26 พฤษภาคม) และจะควบคุมไม่ให้พ่อ-แม่ตั้งชื่อที่ออกเสียงผิดแผกเกินไปให้กับลูก

แต่คำสั่งห้ามของรัฐบาลญี่ปุ่น ก็มีกระแสต่อต้านอยู่ไม่น้อย เพราะบางคนมองว่า การตั้งชื่อแบบคิระคิระนี้ เป็นการแสดงออกถึงความเป็นปัจเจก และไม่สมควรที่จะถูกแทรกแซงจากรัฐบาล

“พวกเขาไม่ใช่ลูกของประเทศ พวกเขาเป็นลูกของพ่อ-แม่พวกเขา” ชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งโพสต์ข้อความบน X

ส่วนคนที่เห็นด้วยคำข้อจำกัดของรัฐบาล แสดงความยินดีกับเรื่องนี้ โดยให้เหตุผลว่า “ชื่อที่แปลกเกินไป อาจนำมาสู่การถูกบูลลี่ หรือทำให้เกิดความสับสนหาต้องทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้”


กระแส “การตั้งชื่อแปลก” มากขึ้นทั่วโลก 

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องมีการออกข้อจำกัดในการตั้งชื่อในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีกฎหมายให้คู่แต่งงานต้องใช้นามสกุลเดียวกัน ที่ภริยาจะต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลสามี - ซึ่งแตกต่างจากประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่น ๆ ที่เปิดกว้างในแนวทางดั้งเดิมนี้แล้ว

ที่ผ่านมา เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มสิทธิสตรี และกลุ่มสนับสนุนความหลากหลาย ที่ต้องการให้เปลี่ยนกฎเรื่องนามสกุล และขอให้ผู้หญิงมีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ว่า จะใช้นามสกุลสามี หรือจะใช้นามสกุลเดิมของตน

แนวโน้มเรื่องการตั้งชื่อที่แปลกและเป็นอิสระที่ไม่อิงกับ “วัฒนธรรมดั้งเดิม” นี้ แสดงให้เห็นว่า ชาวญี่ปุ่นต้องการแสวงหา “ความเป็นเอกลักษณ์ และความเป็นอิสระ” มากขึ้น และมีผลการศึกษาที่พบว่า โครงสร้างครอบครัวและค่านิยมของสังคมญี่ปุ่นที่เปลี่ยนไป


แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้เป็นประเทศเดียว ที่พบเทรนด์ของการตั้งชื่อแปลก ๆ - ผลการศึกษาเมื่อปี 2016 พบว่า พ่อ-แม่ชาวอเมริกัน ได้ตั้งชื่อลูก ๆ แปลกไปจากชื่อดั้งเดิม ในระหว่างปี 2004-2015 - บ่งชี้ถึงความเป็นปัจเจกมากขึ้น

เช่น อีลอน มัสก์ ที่ตั้งชื่อูกชายว่า  “X Æ A-12.”

หรืออย่างในเยอรมนี ทางการก็สามารถปฏิเสธชื่อทารกได้ หากเห็นว่าชื่อนั้นไม่เหมาะสม หรืออาจเป็นอันตรายต่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก เช่น เคยห้ามตั้งชื่อ “Borussia” ซึ่เงป็นชื่อทีมฟุตบอล หรือ “Gastritis” ที่หมายถึงโรคกระเพาะอาหาร โดยให้เหตุผลว่า อาจเป็นอุปสรรคต่อสวัสดิภาพของเด็ก

ส่วนนิวซีแลนด์ ก็มีกฎระเบียบเข้มงวดเกี่ยวกับการตั้งชื่อเช่นกัน โดยห้ามใช้ชื่อที่เกี่ยวกับยศ หรือตำแหน่ง เช่น King หรือ Prince ที่มักถูกปฏิเสธอยู่เป็นประจำ


แล้วคุณ...ตั้งชื่อลูกว่าอะไร ?

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง