รีเซต

"คลัง" ลุยปราบ "เงินเทา" สกัดมิจฉาชีพ เร่งอุดช่องโหว่ เส้นทางสินทรัพย์ เงิน-คริปโท-ทองคำ-รถหรู

"คลัง" ลุยปราบ "เงินเทา" สกัดมิจฉาชีพ เร่งอุดช่องโหว่ เส้นทางสินทรัพย์ เงิน-คริปโท-ทองคำ-รถหรู
TNN ช่อง16
7 พฤศจิกายน 2568 ( 13:30 )
13

"คลัง" รับลูกนายกฯ เร่งเดินหน้าปราบเงินเทา ตั้งทีมดาต้าบูโร เชื่อมโยงเส้นทางการเงิน คริปโท ทองคำ หวังอุดช่องโหว่ สกัดมิจฉาชีพ ยกระดับการทำงานระดับสากล 


นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่แน่วแน่ในการเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องการฟอกเงิน หรือการตรวจสอบปราบปรามธุรกรรมต้องสงสัย (เงินเทา) โดยก่อนหน้านี้ ได้หารือกับนายอนุทิน ชาญชีวกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้มอบโจทย์ชัดเจนว่า ทุกกรณีที่หากพบว่าเป็นความผิด ไม่ว่าจะมีใครเกี่ยวข้องด้วย สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวล ดังนั้นนี่เป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลเต็มที่และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง

          

นายกฯ ได้สั่งการให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีการช่วยเหลือใครอย่างแน่นอน นี่คือโจทย์ชัดเจน ทุกกรณีที่พบความผิดสามารถลุยได้อย่างเต็มที่ พร้อมย้ำว่าไม่ต้องเป็นกังวล ตรงนี้เป็นประโยคที่ทำให้คณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด มีความฮึกเหิมอย่างมาก

          

โดยก่อนหน้านี้ มีการประชุมคณะอนุกรรมการเชื่อมโยงข้อมูลทางการเงิน เพื่อยกระดับการติดตามตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัย (เงินเทา) มีการตั้งคณะทำงาน Data Bureau เพื่อทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงข้อมูล ข้อกฎหมายระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในเส้นทางการเงินทั้งหมด และนำข้อมูลไปรองรับการทำงานในส่วนต่าง ๆ ของคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้เห็นภาพชัดเจนแล้ว 80-90% และจะมีการกลับมาหารือถึงความคืบหน้าอีกครั้งภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยทั้งหมดจะต้องชัดเจนภายในเดือน ธันวาคม 2568

         

ทั้งนี้รัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาถึง 4 คณะ เพื่อดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งมีทั้งการปราบปราม ตรงนั้นเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่คณะทำงานของคลัง คือ ผลระยะยาว เราไม่ทำเพียงแค่การแก้ปัญหาเป็นจุด ๆ เท่านั้น เพราะสุดท้ายโจรก็จะกลับมา โดยคณะทำงานของคลัง  คือ การปิดช่องโหว่ของกฎหมายทางการเงินทั้งหมด ซึ่งต้องยอมรับว่าเรามีกฎหมายเยอะ มีหลายหน่วยงาน แต่ข้อมูลไม่เชื่อมกัน ตรงนี้เป็นช่องโหว่สำคัญของการจะตามจับโจร เปรียบเหมือนคนตาบอดคลำช้าง รู้ว่านี่คือหัว นี่คือขา แต่ไม่รู้ว่าคือช้าง ดังนั้นการจะเห็นหน้าตาของช้างได้ ก็ต้องเห็นภาพรวมทั้งหมดก่อน ซึ่งนายเอกนิติระบุว่าได้ตั้งเป้าหมายยกระดับเรื่องนี้ให้เป็นมาตรฐานสากล หากไม่ดีกว่า ก็ต้องดีเท่า




รัฐบาลไทย ลุย "ปราบเงินเทา" สกัดทุกสินทรัพย์ แลกเปลี่ยนเงิน-คริปโท-ทองคำ-รถหรู 


โดยก่อนหน้านี้ในการประชุมคณะอนุกรรมการเชื่อมโยงข้อมูลทางการเงินเพื่อยกระดับการติดตามตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัย ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 5พฤศจิกายน 2568  เป็นการประชุมประชุมนัดแรกเพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินและกฎหมายหลายภาคส่วน โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาระบบการเงินที่ต้องสงสัยหรือเงินเทา


โดยที่ประชุมได้มีการหารือถึงกรอบและแนวทางการทำงานพร้อมกำหนดช่องทางการเงินที่อาจเป็นพฤติกรรมที่ต้องสงสัยที่ต้องเร่งตรวจสอบ ซึ่งครอบคลุม 3 ช่องทางหลัก ได้แก่


สินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโทเคอเรนซี โดยเฉพาะส่วนที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่นอกประเทศไทย

การเงิน (cash) หรือ การแลกเปลี่ยนเงิน (Money Changer) ซึ่งเป็นส่วนที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กำกับดูแล

ตลาดทองคำ โดยรวมถึงทองคำที่เป็นกายภาพ (physical) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (delivertive) ที่เป็นกระดาษ ซึ่งปัจจุบันตลาดทองคำยังไม่มีหน่วยงานใดกำกับดูแลโดยตรง


นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือถึงลักษณะการฟอกเงินผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การซื้อทองคำ อสังหาริมทรัพย์ รถหรู หรืออัญมณี เช่น เพชร


นายเอกนิติ ได้ย้ำว่าทองคำก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เราสังเกตเห็นธุรกรรมผิดปกติ ขณะที่ตลาดทองคำยังไม่มีหน่วยงานใดกำกับดูแลโดยตรง ถึงแม้กรมศุลกากรอาจรู้ว่าใครเป็นผู้นำเข้าหรือส่งออกแต่ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง  พร้อมระบุว่าเห็นได้ว่าช่องทางการเงินทั้ง 3 ช่องทาง มีผู้กำกับดูแลที่แตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่แต่ละหน่วยงานมีข้อมูลกระจัดกระจายและต่างคนต่างทำ คณะอนุกรรมการจึงมีมติให้ดำเนินการทำดาต้า บูโร (Data Bureau) โดยการนำข้อมูลที่มีอยู่แล้วของหน่วยงานต่างๆ มาเชื่อมโยงและรวมเข้าด้วยกัน โดยเบื้องต้นเน้นที่การทำงานร่วมกันของ ธปท., ก.ล.ต. และ สมาคมธนาคารไทย โดยการดำเนินการในดาต้า บูโรจะเน้นตรวจสอบใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่


การพิสูจน์ตัวตน (Know Your Customer – KYC) โดยตรวจสอบว่าบุคคลหรือนิติบุคคลนั้นเป็นตัวจริงหรือเป็นนอมินีหรือไม่ เนื่องจากบางตลาด เช่น ตลาดทองคำ อาจยังไม่มีการตรวจสอบและยืนยันตัวตนที่เข้มข้นเท่าการในภาคการเงิน เช่น การเปิดบัญชีธนาคาร


พฤติกรรม (Behavior) โดยตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น แจ้งว่าเป็นนักท่องเที่ยวหรือนักธุรกิจ แต่มีเงินไหลเข้าออกที่ผิดปกติหรือ


ธุรกรรม (Transaction) โดยตรวจสอบการไหลเข้าและไหลออกของเงินผ่านช่องทางต่างๆ ที่ต้องผ่านธปท.



จ่อออกกฎหมายใหม่ สกัด "เงินเทา" ปราบมิจฉาชีพ ภัยการเงิน


นายเอกนิติ ระบุว่าคณะอนุกรรมการจะใช้เคสจริงจากข้อมูลกระทรวงยุติธรรมมาเป็นตัวอย่างในการทดสอบระบบและเส้นทางการเงิน เพื่อดูว่าข้อมูลอยู่กับหน่วยงานใด พฤติกรรมน่าสงสัยหรือไม่ และเงินไหลเข้าออกอย่างไร โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้ไม่มีอำนาจตรวจสอบเป็นรายกรณี แต่มีภารกิจหลักในการแก้ปัญหาระบบโดยรวม โดยจะนำผลการทดสอบมาตรวจสอบว่ากฎหมายปัจจุบันที่กระจัดกระจายอยู่สามารถจัดการพฤติกรรมต้องสงสัยทั้งหมดหรือไม่ ขณะที่ปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการจัดทำกฎหมายใหม่เพื่อปิดช่องโหว่และจะนำข้อมูลจากคณะอนุกรรมการชุดนี้ไปเติมเต็มเพื่อให้กฎหมายฉบับใหม่ครอบคลุม”


สำหรับเป้าหมายสูงสุดของการทำงานในครั้งนี้ คือ การยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลทางการเงินของประเทศไทยให้ได้มาตรฐานสากล โดยเฉพาะตามกรอบของ FATF (Financial Action Task Force) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกใช้ โดยที่ประชุมตั้งเป้าหมายว่าภายในเดือน พ.ย. 2568 รูปแบบของดาต้า บูโรต้องดำเนินการเสร็จเรียบร้อย และ ภายในเดือน ธ.ค. 2568 ประเทศไทยต้องมีระบบที่สามารถกำกับดูแลและป้องกันธุรกรรมทางการเงินที่ต้องสงสัยได้ตามมาตรฐานสากลหรือดีกว่ามาตรฐานสากล


ส่วนความกังวลเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่างๆอาจติดขัดด้านข้อจำกัดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) เนื่องจากแต่ละหน่วยงานมีข้อจำกัดในเรื่องของการเปิดเผยข้อมูลกับบุคคลภายนอก ดร. เอกนิติ กล่าวว่า กฎหมาย PDPA มีข้อยกเว้นทางกฎหมายใช้ในการดำเนินการเรื่องนี้เนื่องจากมีการกำหนดว่าอนุญาตให้ดำเนินการได้หากใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ


ทั้งนี้การประชุมคณะอนุกรรมการเชื่อมโยงข้อมูลทางการเงินเพื่อยกระดับการติดตามตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัย ครั้งที่ 1/2568 มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง, กระทรวงพาณิชย์, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมศุลกากร, กรมสรรพากร, DSI, ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สมาคมธนาคารไทย, สมาคมการเงินของรัฐ โดยมีสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง