'บิ๊กป้อม' สั่ง ศกพ.เร่งแก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 หมอกควันภาคเหนือ ดูแลสุขภาพประชาชน
เมื่อวันที่ 2 เมษายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความห่วงใยสุขภาพของพี่น้องประชาชน เนื่องจากสถานการณ์ PM2.5 ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ได้จึงได้กำชับและสั่งการให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชน ให้หมดสิ้นไปโดยเร็วและยั่งยืนโดยกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานประสานหลัก ได้ดำเนินการจัดทำรายงานไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียน ผ่านแบบฟอร์มของ ASEAN SOP ในช่วงนี้ทุกวันเพื่อขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านในการลดการเผาในที่โล่ง และเร่งการดับไฟ และขอให้ประเทศในภูมิภาคแม่โขงร่วมกันดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในที่โล่งอย่างเข้มงวดเพื่อลดจุดความร้อนในภูมิภาค รวมถึงได้จัดส่งจดหมายอย่างเป็นทางการไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียนเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 เพื่อเน้นย้ำอย่างเป็นทางการในการขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา ในการลดหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคแม่โขงโดยเร็ว
ทั้งนี้ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ประสาน ขอให้ทุกจังหวัดดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ควบคุมและดับไฟป่า และควบคุมการเผาในที่โล่ง
2. บังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผาในที่โล่งอย่างเด็ดขาด
3. ระดมสรรพกำลังเพื่อเพิ่มการลาดตระเวน เฝ้าระวัง และดับไฟ
4. เร่งลดเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าโดยการชิงเก็บ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์เศษวัสดุการเกษตรเพื่อลดการเผาในพื้นที่เกษตร
5. เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข จัดส่งเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องกับประชาชน เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย
6. เร่งสื่อสารสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน พิจารณาจัดแถลงข่าวสถานการณ์และผลการดำเนินงานให้ประชาชนรับทราบ
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันพบสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานรวม 25 พื้นที่ และอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ 9 พื้นที่ พบปริมาณฝุ่นละอองสูงสุดที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรวจวัดได้ 427 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสียงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองเมื่ออยู่ในพื้นที่มีมลพิษทางอากาศสูง หากมีอาการทางสุขภาพรุนแรงควรปรึกษาแพทย์ พื้นที่ภาคเหนือยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าจุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่พบแนวโน้มการเพิ่มขึ้นฝุ่น PM2.5 เนื่องจากสภาพอุตุนิยมวิทยาในภาคเหนือมีความเร็วลมต่ำ ไม่เอื้ออำนวยในการระบายฝุ่นออกจากพื้นที่ ประกอบอิทธิพลของลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาสะสมเพิ่ม ทำให้สถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่ภาคเหนือเกินมาตรฐาน ทางกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันบูรณาการแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชน ตามสั่งการของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใยต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน ให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็วที่สุด