จับตามหาสมุทรแปซิฟิก โรงงานผลิตพายุของโลก

ในโลกของภูมิอากาศ พื้นที่ที่เป็นแหล่งก่อกำเนิดพายุมากที่สุดในโลกคือ มหาสมุทรแปซิฟิก เนื่องจากบริเวณนี้มีสภาพน้ำทะเลที่อุ่น และทิศทางลมที่เอื้อต่อการเกิดพายุ จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ต้องจับตาอยู่เสมอ

บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นขึ้นชื่อว่าเป็น “แหล่งผลิตพายุ” ที่ไม่เคยหยุดทำงาน โดยข้อมูลจากหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาชี้ว่า เกือบหนึ่งในสามของพายุหมุนเขตร้อนทั่วโลกเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตก โดยเฉลี่ยในแต่ละปี พื้นที่นี้มีพายุที่ได้รับการตั้งชื่อประมาณ 26–27 ลูก และในจำนวนนี้ 16–17 ลูกพัฒนาเป็นไต้ฝุ่น ขณะที่มหาสมุทรแอตแลนติกมีพายุเพียง 12–14 ลูกต่อปีเท่านั้น ไม่เพียงแต่จำนวนพายุจะมาก ความรุนแรงก็ยังสูงที่สุด ระหว่างปีพ.ศ. 2488-2565 บริเวณนี้มีพายุไต้ฝุ่นระดับ 5 เกิดขึ้นมากกว่า 200 ลูก ในขณะที่แอตแลนติกมีเพียงประมาณ 30 ลูก 

สาเหตุที่ทำให้ มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ก่อกำเนิดพายุที่รุนแรงนั้นมาจากหลายปัจจัย อย่างแรกคือน้ำทะเลที่อุ่นจัด ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ย 29–31 องศาเซลเซียสตลอดปี เป็นเชื้อเพลิงให้พายุมีพลังเพิ่มขึ้น ร่องมรสุมเกือบ 90% ของพายุในพื้นที่นี้เริ่มต้นจากร่องมรสุมที่ก่อให้เกิดลมหมุนและความชื้นมากพอ นอกจากนี้รูปแบบเส้นเมริเดียนแปซิฟิก ยังช่วยให้พายุอยู่ในทะเลอุ่นๆได้นานขึ้น ซึ่งก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความรุนแรงให้กับพายุมากขึ้นไปอีก 

ด้านนักวิจัยเตือนว่า ภาวะโลกร้อนจะทำให้พายุไต้ฝุ่นระดับ 4-5 มีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก แม้จำนวนรวมอาจใกล้เคียงกับจำนวนเดิม  แต่พายุจะเคลื่อนตัวช้าลง ฝนตกหนักนานขึ้น น้ำท่วมและดินถล่มรุนแรง เมื่อน้ำทะเลสูงขึ้นอีก 0.5–1 เมตร เมืองใหญ่อย่าง มะนิลา โฮจิมินห์ และบางส่วนของโตเกียวอาจเสี่ยงจมน้ำได้ และเศรษฐกิจโลกอาจเผชิญ วิกฤติ supply chain ตั้งแต่ชิปคอมพิวเตอร์ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างถาวร

นี่ก็เป็นสัญญาณเตือนถึงความเปราะบางของโลกเรา หากมนุษย์ไม่ปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภูมิภาคนี้อาจเผชิญกับวิกฤตสภาพอากาศจากพายุรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็นได้