"พิพัฒน์" ลั่นไทยยังไปได้ เล็งชงครม.ใช้งบเหลือ ลุยต่อเฟส2 ปลุกเที่ยวยาวถึงสิ้นปี
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวในระหว่างจัดสัมมนา ปลุกไทยเที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า จัดโดย หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพมหานคร ตอนหนึ่งว่า การท่องเที่ยวในปี 2563 หากไม่มีการระบาดโควิด-19 รัฐบาลตั้งเป้าว่าภาคการท่องเที่ยวไทยจะต้องสร้างรายได้รวมทั้ง 2 ตลาด คือนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย กว่า 3.04 ล้านล้านบาท แต่เมื่อเกิดการระบาดทำให้ความคาดหวังในการสร้างรายได้ผ่านการท่องเที่ยวหายไป แต่ยังหวังว่าประเทศไทยจะสามารถค้นพบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ได้ หรือต่างประเทศมีการค้นพบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวมีความเสี่ยงน้อยลง
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า โควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยทุกส่วน จึงกำหนดเป้าหมายการทำงานปี 2563 สร้างรายได้รวมทั้งปีไม่ต่ำกว่า 1.23 ล้านล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหากเข้ามาได้ 9-10 ล้านคน ถือว่าเก่งมากแล้ว ประเทศไทยในขณะนี้ ยังเชื่อว่าสามารถเดินต่อไปได้ ไม่ถึงกับเข้าสู่ภาวะแย่มากแล้ว เพราะยังมีปัจจัยเกื้อหนุนหลายด้าน ตั้งแต่การเป็นประเทศอู่ข้าวอู่น้ำ เป็นเมืองเกษตรกรรม มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่พร้อมเพรียง ถือเป็นต้นทุนที่มีค่ามาก
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับโครงการเที่ยวปันสุขเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เชื่อว่าจะเหลืองบประมาณจากโครงการนี้ประมาณ 9,000 ล้านบาท ก็จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และนายกรัฐมนตรี เห็นชอบในการนำเงินประมาณคงเหลือไปขยายกระตุ้นการท่องเที่ยวในเฟส 2 เดือนสิงหาคมนี้จะประเมินผลจากเฟสแรกและปรับปรุงเพิ่มเติมในเฟส 2 คาดว่าจะดำเนินให้เสร็จทั้งโครงการเดือนตุลาคม เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวยาวถึงสิ้นปี เบื้องต้นเงื่อนไขจะแตกต่างจากเดิม มีการเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและเป้าหมายที่กว้างขึ้น