ชาวบ้านเฮ ตลาดร่วมใจพิษณุโลก เนื้อหมู ราคาถูกลง แต่ผัก ขยับแพงขึ้น

หลังเทศกาลตรุษจีน ตลาดสดเมืองพิษณุโลก มีการปรับราคาของสดทั้งผักสด และเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อหมู มีการปรับราคาลดลง ขณะที่ผักสวนกระแส มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะผักบุ้ง จากเดิมกำละ 30 บาทปรับเพิ่มเป็นกำละง 50 บาท

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตลาดร่วมใจ ตลาดสดใจกลางเมืองพิษณุโลก ตั้งอยู่ที่ เทศบาล 6 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อสำรวจราคาผักสดและราคาเนื้อหมู หลังเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา มีการปรับราคาของสดทั้งผักสดและเนื้อสัตว์ ซึ่งบางอย่างมีราคาแพงขึ้นและราคาถูกลง วันนี้จากการสำรวจตลาดพบว่า เนื้อหมูปรับราคาลดลง ขณะที่ผักสวนกระแสปรับราคาเพิ่มขึ้น สาเหตุมาจากค่าขนส่งสูงขึ้น สภาพภัยแล้งและโรคระบาด

นางปิยะดา แซ่เฮ้ง เจ้าของร้านเจ๊ดา ร้านจำหน่ายผักสดตั้งอยู่ในตลาดนัดร่วมใจ มีผักสดจำหน่ายมากมายหลายชนิด กล่าวว่า ช่วงนี้ผักบุ้งจีนและชะอม ราคาแพงขึ้น โดยราคาถูกปรับขึ้นมาประมาณหนึ่งอาทิตย์แล้ว แต่ผักชนิดอื่น ๆ ยังราคาเท่าเดิม

ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากภัยแล้ง ทำให้เกิดโรคระบาด โดยเฉพาะเพลี้ยบุกทำลาย ทำให้ใบเหลืองไม่สามารถรับประทานได้ และก่อนหน้านี้ผักบุ้งจีนเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคพอมาเจอวิกฤติเพลี้ยทำลายใบผัก ทำให้ผักบุ้งจีนมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า จึงต้องปรับราคาให้แพงขึ้น จากเดิมกำละ 30 บาท เป็นกำละ 50 บาท

ซึ่งผักบุ้งจีนเคยราคาแพงมากที่สุดอยู่ที่ กำละ 100 บาท แต่จากสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำ การปรับราคาเพิ่มขึ้นทำให้มีเสียงลูกค้าบ่นว่าราคาแพง ส่วนชะอมจากราคาเดิมกำละ 20 บาท เป็นกำละ 30 บาท ลูกค้าจึงหันมาซื้อผักบุ้งแก้วมากขึ้น ทำให้ผักบุ้งแก้วขายดีเนื่องจากราคายังเท่าเดิม สำหรับร้านเจ๊ดา รับผักสดมาจากตลาดผักริมทางรถไฟโรงเรียนพุทธชินราชทุกเช้า และร้านเจ๊ดายังเข้าร่วมโครงการสวัสดิการของรัฐ สามารถไปใช้คนละครึ่งที่ร้านได้ ร้านเปิดตั้งแต่ 05.30 น.-16.00 น. สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 080-557-4594

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เนื้อหมูราคาแพงขึ้น ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค เดินทางไปสำรวจราคาเนื้อหมูช่วงหลังเทศกาลตรุษจีนพบว่า เนื้อหมูถูกปรับราคาลดลง โดยที่ร้านโกตาหมูสด ร้านจำหน่ายหมูสดเจ้าใหญ่ในตลาดร่วมใจ

นางจุฬาลักษณ์ สัวกิตติกุล เจ้าของร้านบอกกับผู้สื่อข่าวว่า หลังตรุษจีนมานี้ราคาหมูถูกลง ทำให้ยอดขายคึกคักกว่าที่ผ่านมา โดยคาดว่าสาเหตุที่ราคาหมูลดลงมากขนาดนี้คงเป็นเพราะ พ่อค้าแม่ค้าไม่สามารถจำหน่ายเนื้อหมูได้ รวมทั้งหมูหน้าฟาร์มปรับราคาลดลงด้วย เพราะผู้บริโภคหันไปรับประทานเนื้อสัตว์ชนิดอื่นมากกว่า

ทำให้ช่วงนี้เนื้อหมูจึงปรับราคาให้ถูกลง อีกทั้งทางร้านได้เข้าร่วมโครงการสวัสดิการของรัฐด้วย จึงทำให้มีลูกค้าแวะมาซื้อเนื้อหมูอยู่มากขึ้น ทำให้เนื้อหมูที่ร้านขายดีทุกส่วน เพราะราคาที่ถูกลง เช่น เนื้อแดง-สะโพก ปรับราคาลงมาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 190 บาท สันคอ-ไหล่ ปรับราคาลงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท หมูบด ปรับราคาลงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 180 บาท คาดว่าราคาเนื้อหมูน่าจะปรับลดลงเรื่อย ๆ และคงไม่ปรับราคาแพงขึ้นอีกแล้ว