ราคาผักผลไม้อินเดียพุ่งแรง ผลพวงจากวิกฤตสภาพอากาศ

อินเดียกำลังเผชิญกับความผันผวนของราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานจาก The Economic Times ระบุว่าในปีงบประมาณ 2025 ราคาผักคิดเป็นสัดส่วนถึง 43.7% ของอัตราเงินเฟ้ออาหารทั้งหมดในประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 30.8% ในปีงบประมาณก่อนหน้า ส่วนผลไม้ก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 5.1% เป็น 8.3% โดยเฉพาะราคากระเทียม มันฝรั่ง หอมใหญ่ มะพร้าว และมะนาว มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจน แม้อัตราเงินเฟ้ออาหารโดยรวมจะลดลงเล็กน้อยจาก 7.5% เหลือ 7.3%

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาสินค้าอาหารยังคงสูงคือผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ความแปรปรวนของปริมาณฝนที่ไม่สม่ำเสมอ ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตผักและผลไม้ ทางด้าน Paras Jasrai รองผู้อำนวยการของ India Ratings and Research กล่าวว่าปัญหานี้ทำให้ซัพพลายของอาหารไม่มั่นคงและกดดันราคาสูงขึ้น

นอกจากนี้ แนวโน้มนี้ไม่ได้จำกัดแค่ในอินเดียเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นทั่วโลก ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจและความมั่นคงทางอาหารอย่างรุนแรง รวมถึงมีแนวโน้มให้ประชาชนอพยพไปยังประเทศที่มีผลผลิตอาหารที่เสถียรกว่า

แม้ว่าจะมีความหวังจากการคาดการณ์ว่าฤดูมรสุมปีนี้จะมาถึงเร็วกว่าปกติ ช่วยฟื้นฟูผลผลิตทางการเกษตรได้บ้าง แต่แนวทางรับมือราคาสินค้าอาหารที่เพิ่มขึ้นยังจำเป็นต้องเร่งดำเนินการ เช่น การพัฒนาวิธีการเก็บรักษาอาหารให้นานขึ้น และส่งเสริมให้ประชาชนปลูกพืชผักในครัวเรือน

ในระดับเกษตรกร การนำเทคนิคการปรับตัวที่ยืดหยุ่นและเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศใหม่ถือเป็นเรื่องสำคัญ อย่างไรก็ตาม การลดมลพิษในชั้นบรรยากาศยังเป็นหัวใจสำคัญ เพราะสารมลพิษเหล่านี้ยิ่งทำให้สภาพภูมิอากาศแปรปรวนมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการเกษตรโดยตรง

สำหรับประชาชนทั่วไป การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เช่น การบริโภคอาหารจากพืชมากขึ้น การใช้รถยนต์ไฟฟ้า และติดตั้งเครื่องทำความร้อนในบ้านที่ประหยัดพลังงาน สามารถช่วยบรรเทาผลกระทบเหล่านี้ได้ ส่วนในระดับชุมชน การเลือกผู้นำที่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน และการควบคุมการปล่อยก๊าซจากภาคอุตสาหกรรม ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศในภาพรวม