คล็อปป์จวกรัฐบาลอังกฤษรับมือโควิดห่วย งงชาวเมืองผู้ดีไม่ยอมสวมหน้ากาก

เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์ตำหนิรัฐบาลอังกฤษเกี่ยวกับมาตรการการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด-19” ที่ขาดประสิทธิภาพ โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ห่วงเลยว่า รัฐบาลจะสั่งให้ยุติฤดูกาลพรีเมียร์ลีกจนหงส์แดงพลาดแชมป์ทั้งที่นำห่างที่หัวตาราง เพราะสิ่งที่ตัวเองห่วงคือจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคระบาด และถึงตอนนี้ก็ยังกังวลอยู่เช่นเดิม

คล็อปป์กล่าวว่า ตนไม่ได้โหวตเลือกรัฐบาลชุดนี้เข้ามา นี่เป็นตัวเลือกของบุคคลอื่น และที่ผ่านมาตนก็ได้รับข่าวสารของสถานการณ์โรคระบาดทั้งในอังกฤษและเยอรมนี บ้านเกิด ตลอด ถ้าบังเอิญมีมนุษย์ต่างดาวมองลงมายัง 2 ประเทศนี้ อาจจะคิดว่าอยู่กันคนละโลกเลยก็ได้ (เพราะการรับมือแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง)

“จากมุมมองส่วนตัว ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมที่อังกฤษถึงเพิ่งคิดจะมาใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิดกันเอาวันที่ 15 มิถุนายน ทั้งที่ประเทศอื่นๆ เขาทำแบบนี้มาตั้งแต่ 5-6 สัปดาห์ก่อนแล้ว คุณอาจจะเถียงว่า ควรใส่ไม่ควรใส่ แต่ลองดูประเทศอื่นๆ ที่เขาใส่หน้ากากกันก่อน ทุกวันนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตน้อยกว่าที่อังกฤษไปหมดแล้ว นั่นคือข้อเท็จจริง”

กุนซือชาวเยอรมันกล่าวต่อว่า ตอนเห็นตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตระหว่างอังกฤษกับเยอรมนี ตนก็คิดว่า ถึงในเยอรมนีจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ เพราะก็มีทั้งคนป่วยและตาย แต่ในแง่การของดำเนินชีวิต เรียกว่าคนละเรื่องกันเลย ถ้าคุณไม่ยอมสวมหน้ากากเข้าร้านต่างๆ ในเยอรมนี จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า ทุกคนต่างก็สวมหน้ากากอนามัย บางร้านเอาแผ่นพลาสติกมาตั้งบังไว้ด้วยซ้ำ

ผิดกับในอังกฤษ เช่น ตนขับรถไปเติมน้ำมัน กลายเป็นว่าเป็นคนเดียวที่ใส่หน้ากากกับถุงมือ กลายเป็นตัวประหลาดไปเลย แต่จะไม่เลิกทำอย่างนั้นเด็ดขาด จนกว่าจะมีใครยืนยันว่าโรคระบาดสิ้นสุดแล้ว ยังดีว่าในสโมสรทุกคนปลอดภัย เพราะมีการตรวจเชื้อไวรัส 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และมาตรการควบคุมโรคเข้มงวดดีมาก

ทั้งนี้ ประเทศอังกฤษมีผู้เสียชีวิตจากโควิดแล้วกว่า 42,000 ราย เป็นหนึ่งในประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลก