สถานการณ์น้ำท่วมอยุธยา ขยายวงกว้าง 12 อำเภอ เดือนร้อน 4 หมื่นครัวเรือน

วันนี้ ( 11 ต.ค. 68 )ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ระบายน้ำในอัตรา 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำได้รับความเดือดร้อน น้ำท่วมบางจุดสูงและยาวนานกว่า 3 - 4 เดือน ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2568

ล่าสุดจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับผลกระทบน้ำท่วมเพิ่มอีก 1 อำเภอ จาก 11 อำเภอ เป็น 12 อำเภอจากทั้งหมด 16 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอมหาราช อำเภอบางปะหัน อำเภอบ้านแพรก อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง และอำเภอบางซ้าย ส่งผลกระทบต่อ 147 ตำบล 889 หมู่บ้าน รวมกว่า 49,239 ครัวเรือน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชนท่าดินแดง หมู่ 3 ตำบลน้ำเต้า อำเภอบางบาล พบว่าบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกติดกับแม่น้ำน้อยยังถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบางส่วน น้ำท่วมสูงถึงชั้น 2 ของตัวบ้าน ทำให้ประชาชนต้องหนุนข้าวของขึ้นที่สูง ระดับน้ำยังคงสูง 2–3 เมตร ขึ้นอยู่กับพื้นที่ แม้ว่าการระบายน้ำในวันนี้จะช่วยให้น้ำในแม่น้ำเริ่มลด แต่พื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

ชุมชนดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำที่ประสบปัญหาน้ำท่วมต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม โดยน้ำท่วมสูงจนถึงชั้น 2 ของบ้านเรือน ทำให้ประชาชนต้องใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับน้ำ ผู้คนในพื้นที่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างเป็นรูปธรรม

ด้านการป้องกันโบราณสถาน นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและผลกระทบต่อโบราณสถาน พบว่าพื้นที่เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่โบราณสถานสำคัญ ยังไม่ถูกน้ำท่วม สถานที่ท่องเที่ยวและเส้นทางคมนาคมสามารถเข้าถึงได้ตามปกติ พร้อมกำชับกรมศิลปากรเฝ้าระวังใกล้ชิด และบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อป้องกันโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างเต็มที่

นางสาวซาบีดาเดินทางไปยังโบราณสถานสำคัญหลายแห่ง ได้แก่ วัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานป้อมเพชร และเจดีย์ศรีสุริโยทัย พร้อมตรวจเยี่ยมแนวป้องกันน้ำท่วมด้านตะวันตกของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ ยังมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่วัดศาลาปูนวรวิหาร และตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมที่มัสยิดดารุซซุนนะห์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการป้องกันและช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างครบถ้วน

สภาพน้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยายังคงสร้างความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงต้องเฝ้าระวังและประสานการระบายน้ำ พร้อมดูแลความปลอดภัยของบ้านเรือน โบราณสถาน และเส้นทางคมนาคมอย่างเต็มที่