"เอกนิติ" ชี้เศรษฐกิจเหมือนรถติดหล่ม ดัน 5 มาตรการเร่งด่วน 4 เดือน

วันที่ 30 กันยายน 2568 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2568 ชะลอตัวต่อเนื่อง เปรียบเสมือน “รถติดหล่ม” โดยตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดจากไตรมาส 1 ที่ 3.2% เหลือ 2.8% ในไตรมาส 2 และคาดการณ์ไตรมาส 3 ราว 1.7% ขณะที่ไตรมาส 4 อาจเหลือเพียง 0.3% สะท้อนกำลังซื้ออ่อนแรง สภาพคล่องตึงตัว หนี้ครัวเรือนสูง และความสามารถในการผลิตถดถอย กระทบตั้งแต่ประชาชน พ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการรายย่อย ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่
รัฐบาลจึงกำหนดแผนเร่งด่วน “Quick Big Win” ระยะ 4 เดือน (ต.ค. 2568 – ม.ค. 2569) เดินพร้อมกัน 5 เสาหลัก โดยยึดหลัก “กระตุ้นสั้น ได้ยาว และกระจายตัว” ดังนี้
กระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยว เดินหน้ามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ (เช่น แพ็กเกจกระตุ้นใช้จ่ายและบัตรสวัสดิการ) ควบคู่โปรแกรมท่องเที่ยวเมืองรองและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้เม็ดเงินกระจายสู่ฐานราก และหนุนรายได้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว
ลดภาระหนี้ประชาชน แก้หนี้รายย่อยเพดานไม่เกิน 100,000 บาท พร้อมเครื่องมือช่วยลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพ และทางเลือกสินเชื่อสำหรับ “คนตัวเล็ก” เพื่อไม่ให้หลุดออกจากระบบการเงิน
เพิ่มสภาพคล่องให้ SMEs อัดสภาพคล่องเพดานรายละไม่เกิน 1,000,000 บาท จัดสินเชื่อเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และมาตรการภาษีเฉพาะจุดเพื่อบรรเทาภาระธุรกิจ ตั้งเป้าให้ธุรกิจหมุนเวียนเงินสดได้จริง
เพิ่มออมของประชาชน เปิดช่องทางออมระยะยาว ผ่าน “สลากเพื่อการออม” และ “พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการออม” เพื่อสร้างกันชนทางการเงินให้ครัวเรือน และดึงเงินออมเข้าสู่ระบบอย่างยั่งยืน
ลงทุนเพื่ออนาคต เร่ง Reskill/ Upskill ทักษะแรงงาน สนับสนุนอุตสาหกรรม New S-Curve อำนวยความสะดวกการลงทุนรูปแบบ “Fast Pass” สำหรับโครงการ BOI ผลักดันพลังงานสะอาด และปลดล็อกอุปสรรคการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
นายเอกนิติระบุว่า กระทรวงการคลังจะ “รักษาเสถียรภาพการคลัง” ควบคู่การกระตุ้น โดยเน้นมาตรการชั่วคราว มีเป้าหมายชัด ใช้งบประมาณอย่างมีวินัย และติดตามผลเป็นรายเดือน พร้อมกำหนด “ตัวชี้วัดที่วัดได้จริง” ได้แก่ GDP ไตรมาส 4 ต้องสูงกว่า 0.3% สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ลดลงต่ำกว่า 87.4% สภาพคล่องของ SMEs ดีขึ้น ประชาชนมีทางเลือกออมระยะยาวมากขึ้น และเม็ดเงินลงทุนอนาคตไหลเข้ามากขึ้น
ในส่วนเครื่องจักรภาครัฐ จะเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ พิจารณางบปี 2569 และงบปี 2568 ที่ค้าง เพื่อให้โครงการสำคัญเดินหน้าได้ทันฤดูกาลเศรษฐกิจปลายปี พร้อมประสานหน่วยงานด้านท่องเที่ยว การค้าชายแดน และการลงทุนต่างประเทศให้ทำงานคู่ขนาน สร้างแรงส่งทั้งระยะสั้นและวางรากฐานระยะยาว
นายเอกนิติทิ้งท้ายว่า เป้าหมายของรัฐบาลใน 4 เดือน คือ “ประคองให้พ้นหล่ม” คืนความเชื่อมั่น สร้างสภาพคล่องให้ธุรกิจและครัวเรือน ควบคู่การลงทุนเพื่ออนาคต เมื่อเศรษฐกิจฐานกว้างฟื้น การเติบโตระยะยาวจะยั่งยืนและกระจายตัวมากขึ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
