รีเซต

สดุดีทหารกล้า! พลทหารพลีชีพ โดนระเบิดถล่มขบวนรถมุ่งหน้าลง 3 จว.ชายแดนใต้

สดุดีทหารกล้า! พลทหารพลีชีพ โดนระเบิดถล่มขบวนรถมุ่งหน้าลง 3 จว.ชายแดนใต้
ข่าวสด
1 ตุลาคม 2563 ( 17:45 )
845
สดุดีทหารกล้า! พลทหารพลีชีพ โดนระเบิดถล่มขบวนรถมุ่งหน้าลง 3 จว.ชายแดนใต้

วันที่ 1 ต.ค. จากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดขบวนรถยนต์ลำเลียงกำลังพลทหาร กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 เดินทางจากอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มุ่งหน้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสับเปลี่ยนกำลัง บนถนนหมายเลข 43 สายหาดใหญ่-ปัตตานี บ้านคลองประดู่ หมู่ 4 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บหลายนาย เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา

 

ล่าสุด พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 11.20 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดขบวนยานยนต์กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 (ร.15 พัน.1) ขณะเคลื่อนย้ายเพื่อสับเปลี่ยนกำลังจาก ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ไปยังกองพันทหารราบเชิงรุก (พัน.ร.เชิงรุก) บ้านนูโร๊ะ หมู่ที่ 1 ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส เมื่อขบวนรถมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้นแรงระเบิดทำให้รถยนต์บรรทุกขนาด 2 ตัน (FTS) ได้รับความเสียหายเล็กน้อยกำลังพลเสียชีวิต 1 นายบาดเจ็บ 6 นาย

 

พลีชีพไฟใต้

 

สำหรับผู้บาดเจ็บ ประกอบด้วย 1.จ.ส.อ.สัญญา บุรีรักษ์ มีอาการหูอื้อ มึนหัว เลือดออกจมูก 2. ส.ท.จักรกฤษ เพชรทอง บาดเจ็บหลังหูขวา ส.ต.เอกราช วิชาศาสตร์ ถูกสะเก็ดต้นขาขวา อาการสาหัส ถูกนำส่งรพ.ปัตตานี เพื่อผ่าตัดนำสะเก็ดระเบิดออก 4.พลทหารอารียะ สาและ ถูกสะเก็ดบริเวณไหล่ขวา 5.พลทหารพงศกร ไหมร่วง ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหลังขวา 6.พลทหารฮารอฟัด มะเซ็ง ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหัวเข่า และ7.พลทหารอรรถพล พลายชนะ ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าหน้าอกด้านขวา มีเลือดคั่งในปอด ส่งต่อรพ.ปัตตานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

พลีชีพไฟใต้

 

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง วางแบบเร่งด่วน สะเก็ดระเบิดเป็นลักษณะเหล็กเส้นตัดท่อน จุดชนวนด้วยระบบวิทยุสื่อสาร โดยผูกติดไว้กับต้นไม้บริเวณเกาะกลางถนนหมายเลข 43 สายหาดใหญ่-ปัตตานี บ้านคลองประดู่ จากภาพข่าวความเคลื่อนไหวในห้วงที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มคนร้ายมุ่งที่จะก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจในพื้นที่เป็นหลัก โดยเฉพาะในห้วงที่จะมีการสับเปลี่ยนกำลัง

 

ภายหลังเกิดเหตุ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต พร้อมกำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดูแลในเรื่องสิทธิและสวัสดิการ ตลอดจนจัดการศพอย่างสมเกียรติที่สุด และสั่งการเน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจสงขลา เพิ่มมาตรการในการควบคุมพื้นที่ และจัดกำลังติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ต้องสงสัย และแหล่ง support site ตลอดจนสนธิกำลังร่วมกับอาสาสมัครประจำพื้นที่

 

พลีชีพไฟใต้

 

พร้อมจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัดบริเวณเส้นทาง พื้นที่ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีและหลบซ่อนตัว รวมไปถึงการลาดตระเวนเส้นทางและจรยุทธ์ในพื้นที่ล่อแหลม โดยเฉพาะพื้นที่สูงข่ม พื้นที่เขตก่อสร้าง ท่อลอด คอสะพาน และพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง