เกือบโดนไล่ออก! พนักงานบริษัท ไม่รับ อั่งเปา ทำเจ้านายฉุน ชี้ ไม่ใส่ใจ

พนักงานบริษัทในประเทศจีน เกือบโดนไล่ออกหลังไม่กดรับ 'อั่งเปา' ในกลุ่มงานบริษัทในเวลาที่กำหนด รองประธานบริษัทชี้ไม่ใส่ใจ-ขาดความรับผิดชอบ

พนักงานการตลาดหลายคนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ในปักกิ่งประเทศจีนเกือบถูกไล่ออกหลังจากที่พวกเขาไม่ได้กดรับ 'อั่งเปา' ที่ออกโดยรองประธานบริษัท ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่แจกไป ทำให้รองประธานเชื่อว่าพนักงานกลุ่มนี้ไม่ใส่ใจกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายกลุ่มคุยงาน ซึ่งในฐานะนักการตลาดของพนักงานกลุ่มนี้ชี้ให้เห็นว่าพวกเขาเป็นคนที่ขาดความรับผิดชอบและความเป็นมืออาชีพขั้นพื้นฐาน

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ธุรการในสำนักงานใหญ่จะต้องแจ้งให้ทราบทีละคน และยังขอให้พนักงานเหล่านั้นขอโทษ ตรวจสอบอั่งเป่าเหล่านั้นและกดรับอั่งเปาจำนวน 200 หยวนหรือประมาณ 930 ที่ท่านรองประธานมอบให้ เพียงเพราะการไม่รับอั่งเปานี้เกือบทำให้พนักงานหลายคนเกือบตกงาน แม้ว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะไม่ได้โดนไล่ออกแต่ก็ทิ้งความประทับใจที่ไม่ดีไว้กับผู้นำ และอาจพลาดโอกาสไปในอนาคต

การแจกซองสีแดงหรือ 'อั่งเป่า' เป็นธรรมเนียมที่ทำสืบต่อกันมานาน เพื่อเฉลิมฉลองและการอวยพรช่วงเทศกาลตรุษจีน แน่นอนว่ามีหลายคนที่ตื่นเต้นและตั้งตารอรับอั่งเป่า ในขณะที่บางส่วนก็ไม่ได้สนใจหรือตั้งตารอขนาดนั้น ซึ่งการรับหรือไม่รับอั่งเป่าจึงไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาเป็นปัญหา

เรื่องราวดังกล่าวจึงทำให้ชาวจีนหลายคนรู้สึกแปลกใจ และเริ่มคิดว่าการที่รองประธานโกรธ เรื่องที่ไม่รับอั่งเปานั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย ทำให้ชาวเน็ตเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าแท้จริงแล้วนี่อาจไม่ใช่การแจกอั่งเป่าแบบปกติ แต่เป็นการ 'วางกับดัก' เพื่อสังเกตและจับตาดูคนที่ไม่ตามข่าวในกลุ่มงาน เพื่อตรวจดูว่าใครคอยติดตามความเป็นไป คอยชื่นชม หรือคอยตอบรับหัวหน้า?

แล้วในวันที่รองประธานแจกอั่งเปาให้กับพนักงานนั้นตรงกับวันหยุดตามกฎหมายจีน จึงถือว่าไม่ใช่เวลางาน ทั้งนี้การให้พนักงานติดตามข่าวสารในกลุ่มทำงานแม้กระทั่งวันหยุด นั่นเป็นการละเมิดสิทธิในการพักผ่อนของพนักงานตามกฎหมายแรงงานหรือไม่ ประเด็นในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในแวดวงการทำงานที่เคร่งเครียดของจีน

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาหลายบริษัทมักจะมีวลีเด็ดที่มักใช้ข่มขู่กันอย่าง "ถ้าวันนี้ไม่ทำงานให้หนัก พรุ่งนี้ก็เตรียมหางานใหม่ได้เลย" เพื่อให้พนักงานตั้งใจทำงาน ซึ่งขอบเขตของคำดังกล่าวได้ขยายขอบเขตกว้างขึ้นเรื่อย ๆ รุกล้ำเวลาและพื้นที่ส่วนตัวของพนักงาน ทำให้พวกเขาต้องทำงานกันไม่หยุดพัก ท้ายที่สุดแล้วพนักงานเหล่านั้นก็ไม่ได้ต่างจากเครื่องจักรกลเสียเท่าไหร่

ที่มา : sohu