XO ยอดขายทุบสถิติใหม่ ออเดอร์รอส่ง 550 ล้าน บ.
XO ส่งสัญญาณรายได้ไตรมาส 2/2566 ทำ All Time High ตุนออเดอร์รอส่ง 550 ล้านบาทบิ๊กบอส “จิตติพร จันทรัช” XO ส่งสัญญาณรายได้ไตรมาส 2/2566 ทำ All Time High จากเดิม 10% หลังตลาดซอสส่งออกบูม ตามเมกะเทรนด์อาหารไทย ดันสัดส่วนลูกค้าอเมริกาชน 10%
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยว่า คาดทิศทางรายได้ไตรมาส 2/2566 จะทำสถิติสูงสุด หรือ All Time High โดยรายได้สูงสุดของบริษัทเคยเกิดขึ้นในไตรมาส 2 เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 450 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/2566 บริษัทมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จากอเมริกาเหนือ หลังจากบริษัทออกงานแสดงสินค้าช่วงปีก่อน ส่งผลให้มีออเดอร์ส่งมอบตั้งแต่ปลายปี 2565 และยาวมาถึงต้นปี 2566 โดยบริษัทมียอดออเดอร์ส่งมอบไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 550 ล้านบาท
** ออเดอร์รอส่งอื้อ
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์รอส่งมอบเป็นจำนวนมาก ดูจากออเดอร์ที่มีเข้ามา คาดจะทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตได้สูงกว่าเป้า บริษัทจึงปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้เป็นเติบโต 20% จากเดิมที่ 10% เพราะเห็นทิศทางออเดอร์จากลูกค้าอเมริกาแล้ว สำหรับสัดส่วนจากอเมริกาปีนี้คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 3-4% และขยับขึ้นมาเป็น 7-8%
อีกทั้งเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin) อยู่ที่ระดับ 40% จากการปรับราคาตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา รวมทั้งแผนขยายตลาดในกลุ่มประเทศที่เป็นโอกาส การเพิ่มกิจกรรมการตลาด และออกงานแสดงสินค้าเพิ่มขึ้น
บริษัทใช้กำลังผลิต ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 69% และมีแผนจะเพิ่มขึ้นกำลังผลิต โดยก่อสร้างโรงงานใหม่กลางปี 2567 ดังนั้นบริษัทไม่กังวลประเด็นกำลังผลิต ขณะที่ปัจจุบันบริษัทสามารถผลิตสินค้าและส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตามแผน โดยคาดปี 2567 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 2 พันล้านบาท
ด้านต้นทุนวัตถุดิบ บริษัทล็อกราคาพริก กระเทียมไว้ถึงกลางปี 2567 เพื่อไม่ให้ต้นทุนวัตถุดิบขยับตัวสูง ส่วนราคาน้ำตาลที่ปรับตัวขึ้นเป็น 25 บาทต่อกิโลกรัม จาก 12 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งบริษัทได้รับผลกระทบน้อย เพราะใช้น้ำตาลเป็นส่วนวัตถุดิบเพียง 10% ของวัตถุดิบทั้งหมด แต่บริษัทใช้ไซรัปในการผลิตสินค้า ซึ่งราคาไซรัปปรับตัวเพิ่มขึ้น 50% จาก 8 บาท เป็น 12-13 บาท เมื่อเทียบกับราคาน้ำตาลที่ปรับขึ้นสูง
** มั่นใจโตตามแผน
อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบตามแผนที่วางไว้ และจะเป็นปีที่ดีของ XO เนื่องจากมีออเดอร์จากลูกค้าอเมริกาเพิ่มขึ้น
สำหรับภาพรวมตลาดซอสส่งออกในปีนี้ คาดจะได้อานิสงส์จากอาหารไทยเป็นเมกะเทรนด์ และรับอานิสงส์การเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองไทย สนับสนุนความต้องการสินค้าของบริษัทเป็นที่ตอบรับจากลูกค้าทั่วทุกมุมโลก ขณะที่ภาพรวมตลาดซอสไทยส่งออกอยู่ที่ประมาณ 1.99 หมื่นล้านบาท ส่วนบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 6.4% และคาดจะขยายการเติบโตในตลาดโลกได้ต่อเนื่อง ด้วยการขยายช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ผ่านดิสทริบิวเตอร์ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 69 ประเทศทั่วโลก หรือส่งออกไปประมาณ 2.5 หมื่นเอาต์เล็ต
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ประเมินทิศทาง XO ว่า รายงานกำไรไตรมาส 1/2566 ที่ 96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 18% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งดีกว่าที่เราคาด โดยรายได้เติบโต 2% จากไตรมาสก่อนหน้าและ +13% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากประเทศสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโก ขณะที่คำสั่งซื้อจากยุโรปเริ่มฟื้นตัว ด้านอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตจาก 40% สู่ 44% เนื่องจากการปรับขึ้นราคาขาย 8-12% ใน ไตรมาส 1/2566 และมี Economies of Scale จากคำสั่งซื้อใหม่
** ลุ้นงบทุบสถิติ
ขณะที่ผู้บริหารปรับเพิ่มเป้าการเติบโตปี 2566 จาก 10% สู่ 20% เนื่องจากได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อจากสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโก โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปีจะทรงตัวเหนือ 44% เนื่องจากมีการล็อกราคาวัตถุดิบไว้แล้วจนถึงปลายปีนี้ ทั้งนี้คาดว่ารายได้ไตรมาส 2/2566 จะทำ All Time High และอัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่ 45-46% เนื่องจากมี Economies of Scale
ความเห็นกำไรในไตรมาส 1/2566 คิดเป็น 25% ของประมาณการโดยเรามีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการ เนื่องจากมีมุมมองบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 2/2566 ที่จะเติบโตต่อเนื่อง และการปรับเป้าหมายรายได้ปี 2566 ของผู้บริหาร อย่างไรก็ตามราคาปรับตัวขึ้นตอบรับข่าวดังกล่าวไปแล้ว จึงแนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" ให้ราคาเหมาะสม 13.50 บาท