ส.อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ โวยมติศบค.ไม่ชัด แรงงานแห่หนี
น.ส. ลิซ่า งามตระกูลพานิช นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯเข้าหารือกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในวันที่ 27 มิถุนายน เพื่อหามาตรการการช่วยเหลือและแนวทางปฎิบัติตามมติศบค.สั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้างชั้วคราว 1 เดือนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากยังมีหลายประเด็นที่ไม่ชัดเจนในทางปฎิบัติ โดยเฉพาะประเด็นการปิดแคมป์คนงานรวมถึงต้องปิดไซต์ก่อสร้างด้วยหรือไม่ รวมถึงการชดเชยเยียวยาจะครอบคลุมทั้งแรงงานในประกันสังคม แรงงานนอกระบบและครอบครัวแรงงาน หรือชดเชยเฉพาะแรงงานในระบบ รวมถึงการขอสงวนสิทธิขยายอายุสัญญาก่อสร้าง หรือ บางไซต์ก่อสร้างมีการฉีดวัคซีนและตรวจเชิงรุกแล้ว ต้องปิดแคมป์ด้วยหรือไม่
“ปัจจุบันในกทม.มีแคมป์คนงานกว่า 400 แห่ง บริษัทใหญ่ไม่น่าห่วง ห่วงแต่รายเล็กที่อยู่กระจัดกระจายตามชุมชน ถ้าไม่มีนโยบายชัดเจน เชื่อว่าคนงานแตกกระจายหนีกลับบ้านหรือออกนอกพื้นที่กันหมด ยิ่งเป็นเพิ่มจำนวนการแพร่เชื้อโรค เหมือนที่ได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อคืนวันศุกร์ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากผู้รับเหมาที่เป็นสมาชิกในสมาคม หลังนายกรัฐมนตรีประกาศปิดแคมป์คนงาน พบว่ามีแรงงานรายย่อยแบบเหมาค่าจ้างรายวันบางส่วนทยอยกลับต่างจังหวัด ก็ไม่รู้ได้ว่าแรงงานชาวไทยและต่างด้าวที่มีอยู่ในพื้นที่กทม.ขณะนี้กว่า 50,000 คน พอมีข่าวว่าปิดแคมป์ จึงเข้าใจในทิศทางเดียวกันว่าปิดไซต์ก่อสร้างด้วย เร่งเดินทางออกจากแคมป์ ” น.ส. ลิซ่า กล่าว
น.ส.ลิซ่า กล่าวอีกว่า นโยบายการปิดแคมป์คนงาน ห้ามการเคลื่อนที่ ดูแล้วยังไม่ค่อยมั่นใจว่าเป็นการแก้ปัญหาถูกจุด เนื่องจากในข้อเท็จจริง ปกติในไซต์ก่อสร้างมีการซีลกันอยู่แล้ว เมื่อพบผู้ติดเชื้อ ก็จะเร่งดำเนินการด้านสาธารณสุข เพื่อส่งเข้ารักษาอาการและสามารถสั่งปิดสถานที่ก่อสร้างนั้นได้ในทันที ถ้ารัฐบาลต้องการจะลดตัวเลขการติดเชื้อจริงๆ ต้องมีการล็อกดาวน์ทุกกิจกรรม ไม่ใช่แค่แคมป์คนงานก่อสร้าง
“ถ้าปิดแคมป์ ปิดไซต์ก่อสร้าง กระทบห่วงโซ่ของระบบก่อสร้างทั้งหมด ไม่ว่าซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้าง เช่น วัสดุก่อสร้าง ระบบบริการการขนส่งก็ต้องหยุด เพราะเข้าไม่ได้ ทำงานไม่ได้ คาดว่าสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการก่อสร้างทั้งระบบประมาณ 10,000 ล้านบาท หากมีการปิด 1 เดือน แต่หากนานกว่านั้นก็จะเสียหายเพิ่มอีก มติให้ปิดแคมป์นั้นถ้าปิดแล้วได้ผล ทุกคนก็ยินดีช่วยประเทศ แต่ทางปฎิบัติและการเยียวยาต้องชัดเจน” น.ส. ลิซ่า กล่าว