งบก็ไม่ค่อยมี แต่อยากขายดี จะเป็นไปได้มั้ยนะ? ถอดบทเรียน KitKat ต่อยอดธุรกิจจากสินค้าชนิดเดียว

30 พฤศจิกายน 2564 ( 16:41 )
163
ในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าใคร ๆ ก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะการขายสินค้าออนไลน์ที่คนส่วนใหญ่หันมาสนใจเป็นจำนวนมาก
แต่พอจะเริ่มขายทีไร #ก็มีเรื่องให้กังวลใจอยู่ทุกที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าที่จะขาย ถ้ามีให้เลือกน้อยเกินไปลูกค้าก็อาจจะไม่สนใจ แต่ถ้าจะให้ขายสินค้าหลายอย่างก็ต้องลงทุนมากขึ้นไปอีก งบก็มีจำกัด สินค้าบางอย่างต้องทำการวิจัยและทดลองก่อนผลิต หรือที่เราเรียกว่า R&D ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก โดยที่ไม่รู้ว่าที่ลงทุนไปนั้นจะขายได้ดีรึเปล่า
อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไป วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูไอเดียจากธุรกิจที่ขายสินค้าเพียงรายการเดียว แต่สามารถสร้างยอดขายได้มหาศาลและเป็นที่จดจำของคนทั่วโลก นั่นก็คือ KitKat (คิทแคท) แบรนด์ขนมเวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลตที่เราคุ้นเคยนั่นเอง
KitKat มีจุดกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เป็นเวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลตที่บรรจุอยู่ในห่อเล็ก ๆ #ถูกออกแบบมาให้สามารถพกพาใส่กระเป๋าและหักแบ่งออกมากินทีละนิดได้ เพื่อให้รู้สึกได้หยุดพักเบรกระหว่างการทำงาน ซึ่งสอดคล้องกับสโลแกนของแบรนด์ “คิดจะพัก คิดถึงคิทแคท” โดยมีรสชาติที่ไม่หนักจนเกินไป ทำให้กินง่ายและกินได้บ่อยโดยที่ไม่รู้สึกผิด ลองมาดูกันว่านอกจาก KitKat จะออกแบบสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าแล้ว ยังสามารถสร้างยอดขายได้มหาศาลจากการใช้กลยุทธ์อะไรบ้าง
แม้ว่า KitKat จะขายแต่เวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลตในรูปแบบเดียวก็จริง แต่สิ่งที่ทำให้ KitKat สามารถอยู่บนโลกนี้มาได้เกือบ 100 ปีแล้วนั้นก็คือ รสชาติที่หลากหลาย ซึ่งประเทศที่มีนวัตกรรมรสชาติมากที่สุดคือประเทศญี่ปุ่น โดยผลิต KitKat ออกมามากกว่า 300 รสชาติเลยทีเดียว ไม่เพียงแต่รสชาติที่เราคุ้นเคยอย่างรสชาเขียวที่ขายดีเท่านั้น รสชาติอื่น ๆ ก็ขายดีไม่แพ้กัน และรสที่ขายดีที่สุดนั้นก็คือรสโชยุ ไม่น่าเชื่อเลยใช่มั้ยคะ เพราะรสชาติเป็นสิ่งที่ KitKat ให้ความสำคัญและพัฒนาอยู่เสมอ สร้างความสดใหม่ให้กับ KitKat ทำให้สร้างยอดขายได้เป็นอย่างมาก แถมยังทำให้คนรู้สึกไม่เบื่อและสนุกไปกับ KitKat อีกด้วย
KitKat ถูกออกแบบให้เป็นของขวัญ โดย KitKat จะหาจุดที่แบรนด์สามารถเชื่อมโยงกับผู้คนได้ เช่น คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการสร้างกำลังใจ KitKat ก็เข้าไปเชื่อมโยงกับการสร้างกำลังใจเช่นกัน โดย KitKat เป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า Kitto Kutsu ในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ชนะแน่นอน! KitKat จึงได้มีการผลิต KitKat รสซากุระ เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับนักเรียนที่กำลังสอบเข้ามหาลัยซึ่งเป็นช่วงที่ดอกซากุระกำลังบาน หากซื้อให้ใครก็เหมือนเป็นการให้กำลังใจและเป็นเครื่องรางให้โชคดีในการสอบ โดยทำกล่องที่สามารถเขียนข้อความให้กำลังใจบนหลังกล่องและสามารถใส่ไปในตู้ไปรษณีย์ได้
นอกจากนั้น KitKat กับคนญี่ปุ่นยังมีวัฒนธรรมการให้ของฝากเวลาที่ไปเยี่ยมญาติ หรือเวลาที่จะไปเจอใครก็ต้องมีของฝากให้กัน KitKat จึงออกแบบรสชาติสำหรับท้องถิ่นนั้น ๆ เช่น KitKat รสมันม่วง ของดีจากโอกินาว่า หรือ KitKat ภูเขาไฟฟูจิ เพื่อเป็นของสะสมจากที่ต่าง ๆ ทำให้เกิดความรู้สึกว่าครั้งนึงต้องกินรสชาตินี้ให้ได้ ทำให้คนรู้สึกสนุกและมีส่วนร่วมไปกับแบรนด์
KitKat ยังมีการเปิด KitKat Chocolatory ซึ่งเป็น Shop ให้คนสามารถสร้างสรรค์ช็อกโกแลตออกมาเป็นรสชาติในแบบของตัวเองได้ และถ้ารสชาติไหนได้รับความสนใจก็จะมีการนำไปผลิตออกมาเป็น KitKat รสชาติที่เราทำเอง ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าที่ได้เข้ามาร่วมสนุกกับแบรนด์
KitKat ทำให้เรารู้ว่า ไม่จำเป็นต้องมีสินค้าที่หลากหลาย เพียงแต่เราไม่หยุดพัฒนา หากลยุทธ์รูปแบบใหม่ ๆ มาใช้ดึงดูดใจลูกค้า ไม่เพียงแต่มุ่งขายที่ตัวสินค้าแต่ยังสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า ก็ทำให้สามารถสร้างยอดขายได้ และยังทำให้รู้ว่าของขวัญไม่ได้จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป แต่อยู่ที่ว่าจะออกแบบยังไงให้ผู้รับรู้สึกดี ซึ่ง KitKat ก็เข้าใจลูกค้าในส่วนนี้และผลิตสินค้าที่ให้คุณค่าทางใจกับลูกค้า เป็นแบรนด์ตัวอย่างที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า จนทำให้ KitKat กลายเป็นแบรนด์ในใจของใครหลาย ๆ คน
เมื่อพูดถึง KitKat เราจะนึกถึงการสร้างประสบการณ์ แล้วเราล่ะอยากให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์เราว่าอะไร?
แป้ง กนกวรรณ กรรณิกา
YouTube: Pang Kanokwan
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
