รีเซต

'สุทิน' เสียงอ่อน หาก 'กก.สมานฉันท์'เป็นที่ยอมรับ พท.ก็พร้อมเข้าร่วม

'สุทิน' เสียงอ่อน หาก 'กก.สมานฉันท์'เป็นที่ยอมรับ พท.ก็พร้อมเข้าร่วม
มติชน
4 พฤศจิกายน 2563 ( 10:27 )
102
'สุทิน' เสียงอ่อน หาก 'กก.สมานฉันท์'เป็นที่ยอมรับ พท.ก็พร้อมเข้าร่วม

‘สุทิน’ เสียงอ่อน หาก’กก.สมานฉันท์’เป็นที่ยอมรับ พท.ก็พร้อมเข้าร่วม แนะต้องพิจารณาทุกเรื่อง ชี้หากมีข้อเสนอแล้วไม่ปฏิบติต้องมีคนรับผิดชอบ เตือนแก้ไข รธน.เหมือน “killing time”


เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.)ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ว่า พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนตามเดิมคือถ้าทุกฝ่ายยอมรับกระบวนการนี้ พรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะเข้าร่วม ส่วนที่เคยเสียงแข็งไปก่อนหน้านี้ เพราะนึกว่ารัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเราไม่เห็นด้วย แต่เมื่อสภาฯเป็นเจ้าภาพ ทางพรรคเพื่อไทยก็ยอมรับ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการตั้งคณะกรรมการในลักษณะนี้เคยกระทำมาแล้วหลายครั้งและล้มเหลวทั้งหมด เนื่องจากไม่เกิดการยอมรับ ดังนั้นแม้สภาฯจะเป็นเวทีที่สามารถหาทางออกได้ แต่จะต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน โดยเฉพาะจะต้องทำงานกับเครือข่ายภาคสังคมให้มากที่สุด สภาฯจะดำเนินการไปฝ่ายเดียวไม่ได้


เมื่อถามว่าจำเป็นหรือไม่ที่คณะกรรมการชุดนี้จะนำข้อเรียกร้อง 3 ข้อของกลุ่มผู้ชุมนุมมาพิจารณา นายสุทิน กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้คุยกันเรื่องเนื้อหา แต่ขอพิจารณาในเรื่องโครงสร้างและรูปแบบการทำงานของคณะกรรมการฯก่อน ทั้งนี้ส่วนตัวคิดว่าคณะกรรมการฯควรหยิบทุกเรื่องมาพิจารณา จะเว้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นความขัดแย้ง


“ที่ผ่านมาการทำงานของคณะกรรมการสมานฉันท์ไม่มีอำนาจในตัวเอง และไม่มีอำนาจผูกพันองค์กรใด ถ้าทำแบบเดิมก็ไม่มีทางที่จะได้รับการยอมรับ เมื่อถึงที่สุดแล้ว และมีผลการศึกษาออกมา ต้องสามารถยกระดับความตระหนักให้เกิดขึ้นได้ในสังคม หากมีข้อเสนอแล้ว แต่ไม่มีการนำไปปฏิบัติหรือแก้ไขก็ต้องมีคนรับผิดชอบ” นายสุทิน กล่าว


นายสุทิน ยังกล่าวถึงการโหวตรับหลักการในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะเข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 17 พ.ย.นี้ว่า ถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอน ต้องไปหาคำตอบร่วมกันในวันอภิปราย หากเกิดเหตุการณ์ที่รัฐสภาคว่ำร่างรัฐธรรมนูญทุกฉบับจะมีผลทำให้ต้องรออีกครั้งในสมัยการประชุมหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนตั้งข้อสังเกตว่าการนำร่างรัฐธรรมนูญมาพิจารณาในสมัยประชุมนี้เปรียบเสมือเป็นkilling time หรือเวลาสังหาร แน่นอนว่าหากผลออกมาเป็นเช่นนั้นต้องมีคนผิดหวังที่เป็นทางลบ และเมื่อมีความผิดหวังเกิดขึ้นจะเกิดอะไรตามมาตนก็ไม่อาจคาดเคาได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง