บังกลาเทศดับหมู่ เรือข้ามฟากไฟไหม้กลางดึก ผู้โดยสารโดดน้ำหนีตาย
บังกลาเทศดับหมู่ - วันที่ 24 ธ.ค. เอเอฟพี รายงานว่า ไฟไหม้เรือข้ามฟากที่มีคนอัดแน่นในบังกลาเทศเมื่อช่วงรุ่งสางตามเวลาท้องถิ่น จุดเกิดเหตุอยู่ในแม่น้ำใกล้เขตจาโลกาธี ห่างจากกรุงธากาไปทางใต้ 250 กิโลเมตร ทำให้ผู้โดยสารหวาดกลัวและกระโดดลงจากเรือเพื่อหนีตาย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 ราย และผู้บาดเจ็บนับร้อยคน นับเป็นโศกนาฏกรรมทางทะเลครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นกับบังกลาเทศ
ผู้บัญชาการตำรวจ โมนีอุล อิสลาม ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ตายจากเปลวเพลิง บางส่วนจมน้ำหลังหลายคนกระโดดลงไปในแม่น้ำ และผู้บาดเจ็บที่เป็นแผลไฟไหม้นับร้อยคนถูกส่งไปโรงพยาบาลในเมืองบารีซัล ส่วนต้นเพลิงเชื่อมาจากห้องเครื่องยนต์และลุกลามไปทั่วทั้งเรือข้ามฟาก ซึ่งบรรทุกคนอย่างน้อย 500 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้เดินทางมาจากเมืองหลวงเพื่อกลับบ้าน แต่เกินความจุผู้โดยสารบนเรือที่ 310 คน
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ไฟไหม้เริ่มราว 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (04.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ก่อนลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ผู้โดยสารที่เป็นหญิงสูงอายุบอกว่า "เรากำลังนอนหลับบนเสื่อที่ปูบนดาดฟ้าชั้นล่างของเรือ และผู้โดยสารทุกคนกำลังนอนหลับ หลานชายวัย 9 ขวบกระโดดลงไปในแม่น้ำ ฉันไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง"
ส่วนผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ เล่าว่า เห็นไฟไหม้ขนาดเล็กในห้องเครื่องยนต์ทันที่ที่เรือข้ามฟากเดินทางออกจากท่าเรือแม่น้ำสาดาร์คัตในกรุงธากาเมื่อ 21.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 23 ธ.ค. "คนจำนวนมากวิ่งหาที่ปลอดภัยเพื่อหนีไฟไหม้ที่ลุกลาม แต่ไม่สามารออกจากห้องพักในเรือที่นอนหลับได้ หลายคนกระโดดจึงลงไปในแม่น้ำ"
ด้านนายโจฮาร์ อาลี ผู้บริหารเขตจาโลกาธี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยรุดมาจุดเกิดเหตุภายใน 1 ชั่วโมงหลังไฟไหม้ และรีบนำผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง ขณะที่ผู้โดยสารหลายคนบอกว่า มีผู้โดยสารบนเรือข้ามฟากระหว่าง 500-700 คน ส่วนไฟไหม้ลามเป็นเวลา 4-5 ชั่วโมงก่อนจะดับ เผาทำลายเรือข้ามฟากทั้งลำ แต่ลูกเรือสามารถนำเรือข้ามฟากขึ้นฝั่งได้
โทรทัศน์ท้องถิ่นแพร่ภาพจักรยานยนต์และห้องโดยสารในเรือข้ามฟากถูกเปลวเพลิงเผาทำลาย ผู้รอดชีวิตและญาติๆ รวมกลุ่มกันแน่นชายฝั่งขณะที่นักดับเพลิงและนักดำน้ำยามฝั่งกำลังสำรวจผืนน้ำที่เป็นโคลน
ทั้งนี้ อุบัติเหตุเรือข้ามฟากครั้งล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญในบังกลาเทศระบุว่า สาเหตุเกิดจากการบำรุงรักษาไม่ดี มาตรฐานความปลอดภัยที่อู่ต่อเรือหละหลวม และการมีผู้โดยสารอัดแน่นเกินไป