วิกฤตน้ำท่วม “อินโดนีเซีย” ทำอุรังอุตังหายากเสี่ยงสูญพันธุ์ ป่าหาย ไร้อาหาร ไม่มีที่หลบภัย

ข้อมูลจากดาวเทียมเผยให้เห็นความเสียหายรุนแรงจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในอินโดนีเซีย ป่าไม้ที่เคยอุดมสมบูรณ์ถูกน้ำและดินโคลนพัดหายไปเป็นแถบยาวเป็นกิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์คาดว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีอุรังอุตังอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด แหล่งอาหาร ที่นอน และที่หลบภัยถูกทำลายไปกว่าร้อยละ 9 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งภัยธรรมชาติในครั้งนี้อาจคร่าชีวิตอุรังอุตังตาปานูลีหลายสิบตัว

อุรังอุตังตาปานูลีได้รับการจัดว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่เมื่อปี 2017 ปัจจุบันมีเหลืออยู่ในธรรมชาติไม่ถึง 800 ตัว อาศัยอยู่ในป่าภูเขาทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เล็กมากทำให้พวกมันเปราะบางต่อภัยธรรมชาติเป็นพิเศษ หลังเกิดน้ำท่วมมีรายงานว่า พบซากอุรังอุตังอย่างน้อย 1 ตัว ขณะที่นักอนุรักษ์เตือนว่า การสูญเสียเพียงหนึ่งชีวิตก็อาจทำให้โอกาสรอดของทั้งสายพันธุ์ลดลงอย่างน่ากังวล

แม้น้ำท่วมจะเป็นภัยธรรมชาติ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามนุษย์ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภัยธรรมชาติรุนแรงมากขึ้น ทั้งการตัดไม้ทำลายป่า การทำเหมืองทอง การสร้างเขื่อน ทำให้ป่าที่เคยช่วยซับน้ำหายไปจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่างก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โลกร้อนขึ้น และทำให้โลกเผชิญกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นด้วย

โดยงานวิจัยล่าสุดยังชี้ว่า ภาวะโลกร้อนทำให้ฝนตกหนักขึ้น และพายุรุนแรงขึ้น ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดน้ำท่วมขนาดใหญ่เช่นนี้

ขณะเดียวกัน นักอนุรักษ์ได้เรียกร้องให้รัฐบาลหยุดโครงการที่ทำลายถิ่นอาศัยของอุรังอุตังทันที และขยายพื้นที่ป่าคุ้มครองให้มากขึ้น รวมถึงเร่งฟื้นฟูป่าลุ่มต่ำที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของพวกมัน พวกเขาเล่าว่า หลังเหตุการณ์ดินถล่ม พื้นที่ป่าที่เคยเต็มไปด้วยเสียงสัตว์กลับ “เงียบอย่างน่าขนลุก” ซึ่งเป็นสัญญาณน่าเศร้าที่บอกว่าอุรังอุตังจำนวนมากอาจสูญหายไป