'อัศวิน' เข้าพบ 'ชวน' รุดตรวจรื้อเสาเข็ม กทม.กั้นเขื่อนเจ้าพระยา ลั่น 5 วันปิดจ๊อบ
เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 13 มกราคม ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พร้อมด้วย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งตัวแทนบริษัทผู้เหมาก่อสร้างอาคารรัฐสภา ได้ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อนของรัฐสภาริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายหลังเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา นายชวนได้ตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างไปแล้วครั้งหนึ่ง พบปัญหาเสาเข็มสำหรับทำเขื่อนชั่วคราว (เสาเหล็กชีทไพล์) ของ กทม.ที่กั้นระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาและอาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นอุปสรรคในการก่อสร้างของผู้รับเหมา
นายชวนกล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 มกราคม ได้มาตรวจความคืบหน้าบริเวณชีทไพล์กั้นแม่น้ำเจ้าพระยา กับบริเวณการก่อสร้างอาคารัฐสภาฝั่งติดแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่า บริเวณนี้เป็นบริเวณที่ผู้ก่อสร้างอยากจะขอให้ถอนออกไป เพื่อที่เขาจะได้ดำเนินการต่อได้ แต่เหล็กมีจำนวนมากและเหล็กแต่ละแผ่นก็หนัก รวมทั้งฝังมา 18-19 ปีแล้ว มีน้ำหนักรวมกันถึง 700 กิโลกรัม อีกทั้งมีความลึกลงไปข้างล่าง 9 เมตร เพราะฉะนั้นต้องใช้เครื่องมือ จึงรบกวน พล.ต.อ.อัศวิน กรุณาได้มาดู และได้สั่งให้ทาง กทม.เริ่มถอนชีทไพล์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เมื่อถามว่า จะต้องใช้เวลาในการรื้อถอนกี่วัน นายชวนกล่าวว่า ถ้าทำตามปกติต้องใช้เวลาเป็นเดือน แต่ตอนนี้ผู้ว่า กทม.จะเร่งให้ ดังนั้น จึงคิดว่าทางบริษัทผู้รับเหมาก็จะสะดวกขึ้น ในการทำงานต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าทางบริษัทผู้รับเหมาขอมาทางประธานสภาฯ ให้เจรจากับทางผู้ว่า กทม.ใช่หรือไม่ นายชวนกล่าวยอมรับว่า ใช่ จากที่ลงมาดูความคืบหน้าเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ทางผู้รับเหมาขอมาและก็ขอมานานแล้ว จากการที่ตนลงมาดูก็คิดว่าควรขอจากผู้ว่า กทม. เพราะคนอื่นทำการรื้อถอนไม่ได้ เนื่องจาก กทม.มีเครื่องมืออยู่ และก็คาดว่าจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็จะเสร็จ ถามอีกว่ายังมีเรื่องอื่นๆ ที่ติดขัดอีกหรือไม่ที่จะต้องดำเนิน นายชวนกล่าวว่า หากพบอะไรที่มีปัญหาก็พยายามช่วยกัน เพราะอย่างน้อยจะได้ช่วยให้บริษัทผู้รับเหมาทำงานได้สะดวกขึ้นเยอะ
ด้าน พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า คาดว่าการรื้อถอนครั้งนี้จะใช้เวลาเพียง 5 วันจะเสร็จสิ้น โดยจะทำตลอด 24 ชม. แบ่งออกเป็น 3 ผลัด ผลัดละ 8 ชม. เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งจะเสร็จในวันที่ 18 มกราคมนี้