พรรคประชาชนย้ำชัด รอผลโหวตแก้รัฐธรรมนูญ ลั่นไม่รับร่างที่ไม่ยึดโยงประชาชน

วันที่ 13 ตุลาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้าน แถลงก่อนการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคประชาชนได้เตรียมผู้อภิปรายจำนวน 20 คน โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ จะเป็นผู้อภิปรายคนแรก ส่วนตนจะอภิปรายเป็นคนสุดท้าย ครอบคลุมทุกหมวดของร่าง โดยเฉพาะหมวด 15/1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปิดทางจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการมีกฎหมายสูงสุดที่แก้ปัญหาปากท้อง การกระจายอำนาจ และคุณภาพชีวิตได้จริง

นายณัฐพงษ์ระบุว่า พรรคประชาชนจะใช้ร่างของตนเองเป็น “ร่างหลัก” ในการพิจารณา แต่หากรัฐสภามีมติรับทุกฉบับ ก็ต้องดูผลโหวตว่าร่างใดจะถูกใช้เป็นร่างหลัก โดยย้ำว่าทุกพรรคต้องหารือกันในระหว่างการประชุมสองวันเพื่อหาทางออกร่วมกัน

สำหรับกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเสนอให้ใช้ร่างของตนเป็นหลัก นายณัฐพงษ์ยืนยันว่าไม่ว่าร่างใครจะถูกเลือกเป็นหลัก ก็ต้องพิจารณาความยึดโยงกับประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมยอมรับว่ามีการวิเคราะห์กันว่าร่างของพรรคภูมิใจไทยอาจยึดโยงกับประชาชนน้อยกว่า แต่มั่นใจว่าสัดส่วนคณะกรรมาธิการในวาระ 2 มีความสมดุล ไม่มีฝ่ายใดสามารถ “กินรวบ” ได้

หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวด้วยว่า หากร่างสุดท้ายที่ผ่านวาระ 2 ไม่ยึดโยงกับประชาชน พรรคประชาชนจะไม่ลงมติให้ผ่านในวาระ 3 โดยยืนยันว่า พรรคไม่ได้มองการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องการแบ่งฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่เป็นวาระแห่งชาติที่ทุกพรรคควรร่วมกันขับเคลื่อน

เมื่อถามถึงการที่ สว. บางส่วนเปลี่ยนท่าทีมารับทุกร่าง นายณัฐพงษ์ตอบว่า เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะต้องพูดคุยทำความเข้าใจร่วมกัน โดยเชื่อว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีบทบาทสำคัญในการประสานทุกฝ่าย เพื่อให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้นได้จริง

นายณัฐพงษ์ยังกล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลว่า แม้รัฐบาลก่อนหน้านี้ใช้เวลานานกว่า 2 ปีในการขับเคลื่อนเรื่องนี้แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้า ทว่าในรัฐบาลปัจจุบันที่มีนายอนุทินดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียง 4 เดือน กลับเห็นการเดินหน้าในเชิงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม ถือเป็นพัฒนาการที่มีนัยสำคัญในการเปิดประตูสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ส่วนร่างพระราชบัญญัติประชามติที่เกี่ยวข้องกับการใช้เสียงข้างมากสองชั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความชัดเจนเรื่องกำหนดเวลาประกาศใช้ แต่ยืนยันว่าฝ่ายกฎหมายของพรรคได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว เพื่อให้สามารถใช้ได้ทันก่อนการทำประชามติ