พ่อสาวทอมยัน 3 ชีวิต ไม่ใช่วิญญาณเร่ร่อน จัดการพิธีตามความเชื่อทุกอย่าง อย่ากุเรื่องให้หวาดกลัว
นครพนม – “เมาหรือมั่ว” พ่อสาวทอมยัน 3 ชีวิต ไม่ใช่วิญญาณเร่ร่อน จัดการพิธีตามความเชื่อทุกอย่าง อย่ากุเรื่องให้หวาดกลัว
กรณี นางมาย ตรั่นถิ อายุ 59 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อ้างว่าพบเจอวิญญาณ น.ส.จิตรา เชียงใบ สาวทอมวัย 29 ปี ที่ถูกนายนพดล น่วมสำลี หรือบี อายุ 42 ปี มีศักดิ์เป็นน้องเขย ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงเสียชีวิตพร้อมกับ น.ส.สุจิตรา เชียงใบ หรือขิม อายุ 23 ปี และ นางลูกโอ๋ เชียงใบ หรือโอลา อายุ 52 ปี แม่ยาย รวม 3 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา บริเวณหน้าตลาดนัดมหาสิทธิโชค ถนนมหาสิทธิโชค เขตเทศบาลเมืองนครพนม จึงเกิดเสียงร่ำลือถึงวิญญาณเฮี้ยนตนนี้ ว่า ยังวนเวียนอยู่บริเวณนั้น ลุกลามไปถึงญาติของผู้ตายว่าได้เชิญวิญญาณของทั้งสามคนกลับไปบ้านหรือยัง
ล่าสุด วันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 38/2 หมู่ 4 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม สอบถามนายไพจิตร เชียงใบ อายุ 60 ปี ผู้สูญเสียทั้งเมียและลูกสาวในคราวเดียวกันถึง 3 ศพ เปิดเผยว่าทราบข่าวทางโทรทัศน์ กรณีมีคนพบวิญญาณลูกสาวคนโตนั้น ก็ได้สอบถามไปยังพรรคพวกที่อยู่ในละแวกเดียวกับนางมายผู้อ้างเห็นวิญญาณน้องโอลีฟ ได้คำตอบว่าผู้หญิงคนนี้ชอบดื่มเหล้าอย่าเชื่ออะไรมากนัก ตนสันนิษฐานว่าเขาอาจคิดไปเองหรือหูแว่วตามประสา หากเป็นจริงทำไมไม่มาหาคนในครอบครัว “หลังเผาศพคนทั้งสามแล้ว ผมก็นิมนต์พระไปเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านหมดแล้ว ตามความเชื่อของคนอีสานทุกอย่าง การจะมาหลอกหลอนผู้นั้นผู้นี้ ผมมั่นใจเขากุเรื่องให้หวาดกลัวมากกว่า พวกเขาไม่ใช่วิญญาณเร่ร่อนนะครับ” นายไพจิตร กล่าว
ขณะเดียวกัน น.ส.รัชดาพร ทองคลี่ หรืออ้อม อายุ 25 ปี คนสนิทของน้องโอลีฟ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่พี่โอลีฟตายไม่เคยมาเข้าฝันใดๆทั้งสิ้น ทุกวันจะไปวัดใส่บาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เสมอ แต่วันเสาร์ที่จะถึงนี้(19 กค.) จะนิมนต์พระไปสวดและพรมน้ำมนต์ที่บ้านเช่าในหมู่บ้านเอื้ออาทร เพื่อความสบายใจของคนในชุมชนนี้ “ทุกวันหนูยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บ่อยครั้งที่นอนร้องไห้ถึงพี่โอลีฟ แต่ก็บอกเขาว่าอย่าห่วงกังวลตนจะดูแลพ่อและน้องโซวอนอย่างดีที่สุด” น้องอ้อม กล่าว
นอกจากนี้นายไพจิตรยังกล่าวต่อว่า ตั้งแต่เกิดเหตุไม่มีญาติฝ่ายมือปืนมาแสดงความรับผิดชอบ หรือแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ ไม่เคยติดต่อหรือขอเจรจาช่วยเหลือใดๆ ส่วนตัวนายบีมือปืนโหดรายนี้เท่าที่ทราบศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจังหวัดนครพนม
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 เวลา 15.30 น. ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บริเวณหน้าตลาดนัดถนนมหาสิทธิโชค เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งเป็นถนน 4 เลนตัดใหม่ ฝั่งขาออกถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22(นิตโย) ริมฟุตบาธพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ 4 ประตู ทะเบียน งบ 1003 ชลบุรี พื้นถนนด้านรถประตูฝั่งขวา พบศพผู้ตายเป็นหญิง ทราบว่าชื่อ น.ส.สุจิตรา เชียงใบ หรือน้องขิม อายุ 23 ปี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน 2 นัดเข้าที่ศีรษะและสีข้างเสียชีวิตคาที่
ขณะที่ริมฟุตบาธประตูรถฝั่งซ้าย พบศพ น.ส.จิตรา เชียงใบ หรือโอลีฟ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของ น.ส.สุจิตรา มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด และใกล้เคียงกันบนทางเท้ามีศพนางลูกโอ๋ เชียงใบ หรือโอลา อายุ 54 ปี เดิมอยู่บ้านเลขที่ 38/2 หมู่ 4 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ศีรษะ 1 นัด ส่วนคนก่อเหตุทราบภายหลังว่าชื่อนายนพดล น่วมสำลี หรือบี อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 74/331 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ พร้อมสารภาพอ้างว่าเกิดจากความหึงหวงที่น้องขิมจะกลับไปคืนดีกับแฟนเก่าที่มีลูกด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันอายุ 2 ขวบเศษ คือน้องโซวอน ขณะที่ฝ่ายญาติคนตายยืนยันว่ามือปืนคิดไปเอง เพราะน้องขิมไม่เคยคิดจะกลับไปอยู่กินกับอดีตสามีแน่นอน เพราะต่างคนก็มีครอบครัวกันหมด โดยคดีดังกล่าวเป็นที่กล่าวขวัญถึงความโหดเหี้ยมของมือปืนรายนี้จำนวนมาก