ทรัมป์ชะลอภาษี 90 วัน ยกเว้นจีนที่ยังเก็บ 125% ปฏิกิริยาของบริษัทเทคฯ เป็นอย่างไร ?

แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะได้ออกมาประกาศล่าสุดระงับการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยออกไปเป็นเวลา 90 วัน ยกเว้นกับประเทศจีนที่ยังคงขึ้นภาษีนำเข้า 125%
ประกาศดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกหลายแหล่งที่มักใช้วิธีการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะบริษัทที่พึ่งพาอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนจากจีน ทำให้มีการปรับตัวทั้งในเชิงกลยุทธ์และแผนการตลาด
บริษัท แอปเปิล (Apple)
คาดว่าบริษัทแห่งนี้จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการผลิต iPhone และสินค้าอื่น ๆ ในจีน ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัท Apple มีความผันผวนรุนแรงหลังการประกาศภาษี บริษัทอาจพยายามขอการยกเว้นภาษีเหมือนในปี 2019 เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อกำไรขั้นต้นที่คาดว่าจะลดลงประมาณ 9% หากไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคซึ่งอาจทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ เช่น iPhone มีราคาสูงขึ้น
บริษัท แอมะซอน (Amazon)
บริษัท แอมะซอน ได้ตอบสนองต่อการขึ้นภาษีนำเข้าด้วยการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าจากจีนและประเทศในเอเชียบางแห่ง ซึ่งรวมถึงสินค้าอย่างเก้าอี้ชายหาด สกู๊ตเตอร์ และเครื่องปรับอากาศ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากภาษีใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น การยกเลิกคำสั่งซื้อเหล่านี้ส่งผลให้ซัพพลายเออร์ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากต้องเร่งหาผู้ซื้อรายใหม่สำหรับสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วและยังไม่มีตลาดรองรับ
บริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn)
บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ให้กับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่างเช่น แอปเปิล (Apple), เดลล์ (Dell), แอมะซอน (Amazon) และเอชพี (HP) ได้ออกคำเตือนอย่างเป็นทางการถึงผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยระบุว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและต้นทุนการผลิต
ก่อนหน้านี้ บริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ได้การกระจายแหล่งผลิตไปยังประเทศอื่น เช่น อินเดียหรือเวียดนาม รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างเสถียรภาพในระยะยาว เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง
บริษัท นินเทนโด (Nintendo)
บริษัทเครื่องเล่นเกมรายใหญ่แห่งนี้ตอบสนองด้วยการเลื่อนการเปิดพรีออเดอร์สำหรับเครื่องเล่น Switch 2 เพื่อประเมินผลกระทบจากภาษีและสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลง จากแผนการเดิมที่จะเปิดพรีออเดอร์ในวันที่ 9 เมษายน
บริษัท ควอลคอมม์ (Qualcomm)
บริษัทออกแบบชิปชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าได้เข้าซื้อสินทรัพย์ด้านปัญญาประดิษฐ์จากกลุ่มบริษัทวินกรุ๊ป (Vingroup) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของเวียดนาม การเข้าซื้อครั้งนี้ครอบคลุมทีมงานผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI), การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning), การมองเห็นของคอมพิวเตอร์ (Computer Vision) และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing)
บริษัท ควอลคอมม์ ระบุเพิ่มเติมว่า การผสานเทคโนโลยีและบุคลากรจากเวียดนามเข้ากับความพยายามในการวิจัยและพัฒนาของบริษัท จะช่วยขยายขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมขั้นสูง และเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของควอลคอมม์ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ระดับโลก
นอกจากนี้ยังมีบริษัท เดลล์ (Dell) และเอชพี (HP) ซึ่งอาจต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น เช่นเดียวกับบริษัท แอมะซอน (Amazon) ได้เริ่มปรับกลยุทธ์โดยยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าจากจีนและประเทศในเอเชียบางแห่ง เพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบของนโยบายภาษีดังกล่าว