รีเซต

เดี๋ยวรู้ไทยพร้อมหรือไม่! จับตาหลังสงกรานต์ จุดเปลี่ยนสู่โรคประจำถิ่น เผยอาการเกิด 'ลองโควิด'

เดี๋ยวรู้ไทยพร้อมหรือไม่! จับตาหลังสงกรานต์ จุดเปลี่ยนสู่โรคประจำถิ่น เผยอาการเกิด 'ลองโควิด'
ข่าวสด
22 มีนาคม 2565 ( 14:34 )
69
เดี๋ยวรู้ไทยพร้อมหรือไม่! จับตาหลังสงกรานต์ จุดเปลี่ยนสู่โรคประจำถิ่น เผยอาการเกิด 'ลองโควิด'

เดี๋ยวรู้ไทยพร้อมหรือไม่! จับตาหลังสงกรานต์ จุดเปลี่ยนสู่โรคประจำถิ่น ย้ำยารักษาโควิดเหมาะกับกลุ่มเสี่ยงรุนแรง ฉีดวัคซีนช่วยลดภาวะลองโควิดได้

 

วันที่ 22 มี.ค.65 ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวถึงการปรับโรคโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่นว่า ต้องจับตาประเมินสถานการณ์หลังเทศกาลสงกรานต์ ที่จะเป็นจุดบอกว่าประเทศไทยเราพร้อมหรือไม่ในการไปสู่โรคประจำถิ่น หากสงกรานต์ที่เป็นช่วงเสี่ยง แล้วเราผ่านไปได้ดี คนไทยเข้าใจโรค วิถีชีวิตในช่วงสงกรานต์นี้ก็จะต่อเนื่องไป ที่จะให้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวได้ เดินทางได้ ดังนั้น ระวังในจุดที่พึงระวัง

 

"ถ้าเราผ่านสงกรานต์ไปด้วยดี คนฉีดวัคซีนเยอะขึ้นอีก สิ่งที่เราเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในสังคมไทยคือ คนที่หายจากการติดเชื้อ ที่เฉลี่ยวันละ 2 หมื่นคนนี้ เท่ากับเราจะมีคนที่มีภูมิคุ้มกันมากเกิดขึ้น ทั้งจากวัคซีนและหายจากโรคเพิ่มขึ้นมากมายในสังคม เชื่อว่าตอนนั้นเราจะเห็นข้อบ่งชี้ที่ทำให้โควิดกลายเป็นประจำถิ่น" ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว

 

ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการใช้ยารักษาผู้ป่วยโควิด เช่น โมลนูพิราเวียร์ แพกซ์โลวิด เกิดขึ้นระหว่างการระบาดเดลตา แต่ขณะนี้เป็นโอมิครอน ข้อมูลทั่วโลกเห็นตรงกันว่า ผ่านมา 3 เดือนตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.64 พบว่า คนฉีดวัคซีนอย่างน้อย 3 โดส แล้วติดโอมิครอน แต่ความรุนแรงของโรคน้อยลงเยอะ ทั้งนี้ แม้ยา 2 ตัวมีรายงานว่ามีประสิทธิภาพดี แต่ยาฟาวิพิราเวียร์ก็มีรายงานว่าได้ผลดีเช่นกัน เพียงแต่เราไม่ได้พูดถึง เราพูดถึงแต่ยาใหม่

 

ถ้าหากโอมิครอนรุนแรงกว่าเดลตา เห็นด้วยที่จะพูดถึงยาใหม่ แต่ขณะนี้ไม่ใช่ เพราะเชื้อขณะนี้มีความรุนแรงน้อยกว่า และคนมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น เชื่อว่ายาฟาวิพิราเวียร์ที่ใช้ มีข้อมูลโดยกระทรวงสาธารณสุข ที่ใช้รักษาผู้ป่วยกว่า 2 ล้านเม็ด ส่วนคำถามที่ว่า ยายังมีความจำเป็นหรือไม่ เหมือนเราเป็นหวัด ปกติก็ไม่ได้ทานยา ใช้การพักผ่อนให้มาก เพียงแต่ตอนนี้ยาเหล่านี้เป็นตัวเลือกในกลุ่ม 608 ที่เสี่ยงต่ออาการมาก

 

เมื่อถามถึงอาการลองโควิด ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า มีการสัมมนาใหญ่ที่สหรัฐฯ และอังกฤษ พบว่า โดยเฉลี่ยอาการลองโควิดไม่ว่าจากสายพันธุ์ใดเกิดประมาณ 15-30% ของคนติดเชื้อ มีมากกว่า 50 อาการตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงมากขึ้น สรุปคืออาการลองโควิดเป็นอาการจริง แต่เดิมที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกิดขึ้นจากความกังวล ส่วนกลไกเกิดที่เคยคุยกันว่าอาจเกิดจากไวรัสหรือระบบภูมิคุ้มกันที่มีปฏิกิริยาต่อไวรัส หรือเรื่องจิตใจ การสัมมนาทั้ง 2 แห่งเห็นตรงกันว่า น่าจะเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของเรา ที่ยังมีการกระตุ้นทำให้บางคนที่หายแล้ว แต่ยังมีการอักเสบในร่างกาย อาจทำให้เกิดอาการลองโควิด ทั้งโลกกำลังศึกษากลไกการเกิดที่แท้จริง จากการติดตามผู้ป่วยที่หายเป็นระยะ

 

"ขณะนี้พบรายงานเดียวจากการศึกษา แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันเพิ่มเติมการศึกษาอื่นๆ ซึ่งพบว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด มีอุบัติการณ์เกิดอาการลองโควิดน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ฉีด อาจเป็นหนึ่งในข้อคิดให้คนไปรับวัคซีน ดีกว่าติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขมีการกำหนดตั้งทีมติดตามอาการลองโควิดและเฝ้าติดตามข้อมูลทั่วโลกในแนวทางการรักษาด้วย นิยามของลองโควิดคือ หายจากติดเชื้อแล้วแต่มีอาการติดตัวอยู่ บางส่วนขึ้นสมอง รู้สึกสมองตื้อตลอดเวลา ไม่กระฉับกระเฉง มีรายงานนักกีฬาในอังกฤษ พบว่ากล้ามเนื้อไม่แข็งแรงเหมือนเดิม" ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง