ทำความรู้จัก "ไข้เหลือง" โรคติดต่อรุนแรง ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

วันนี้( 16 พ.ย.63) โรคไข้เหลือง (Yellow Fever) สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Flavivirus(ฟลาวิไวรัส) ติดเชื้อจากคนสู่คนโดยมียุงลายเป็นพาหะนำเชื้อ จากผู้ป่วยที่เป็นโรคไข้เหลืองไปสู่คนปกติ เช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออก แต่ไม่สามารถติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัส

โฮสต์ ของไวรัสไข้เหลืองคือ ลิงรวมถึงมนุษย์และยุงบางชนิด เมื่อยุงลายดูดเลือดเข้าไปแล้วระหว่างลิงกับยุงจะเกิดเชื้อไวรัสไข้เหลือง และเมื่อยุงตัวดังกล่าวไปกัดคนก็จะได้รับเชื้อทันที ซึ่งมีระยะฟักตัวสั้น ประมาณ 3-6 วัน และเกิดขึ้นในประเทศเขตอากาศร้อน

อาการะยะแรก มีไข้สูง38 องศาเซลเซียสขึ้นไป ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ  หนาวสั่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน

อาการระยะที่ 2  ตัวเหลืองตาเหลืองหรือดีซ่าน ,เลือดออกที่ปาก จมูกและตา  ,ชัก ,ช็อก ตับไตวาย เสียชีวิต โดยเชื้อไวรัสจะใช้เวลาฟักตัว 9 - 12 วัน และเมื่อติดเชื้อแล้ว เชื้อจะคงอยู่ในตัวยุงนั้นตลอดชีวิต

การรักษา ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคไข้เหลืองจำเพาะ แต่เป็นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ และให้สารน้ำทดแทนภาวะขาดน้ำ  

การป้องกัน คือ การฉีดวัคซีนที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง 95 % จะสร้างภูมิคุ้มกันภายใน 1 สัปดาห์ วัคซีนป้องกันโรค 1 เข็ม สามารถป้องกันโรคได้ 10 ปีหรือตลอดชีวิต

ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคไนจีเรียกล่าวว่า  มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไข้เหลือง 35 คนจากรัฐเดลตา 33 คนจากรัฐเอนูกู และ 8 คนจากรัฐเบาชี ระหว่างวันที่ 1-11 พฤศจิกายน ขณะที่ยังมีกรณีต้องสงสัยติดเชื้ออีกราว 222 คน และอีก 19 คนได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อแล้วใน 3 รัฐในช่วงเวลาดังกล่าว โดยส่วนมากของผู้ติดเชื้อเป็นผู้ชายอายุระหว่าง 1-55 ปี ซึ่งพวกเขามีอาการตั้งแต่มีไข้ ปวดหัว อ่อนแรง ดีซ่านหรือตัวเหลืองและตาเหลือง ปวดช่องท้อง เลือดกำเดาไหล อาเจียน ไปจนกระทั่งถึงมีเลือดในอุจจาระและปัสสาวะ 

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนเพื่อยับยั้งการระบาดของโรคแล้ว ทั้งนี้ ไข้เหลืองส่วนมากมีสาเหตุมาจากไวรัสที่แพร่เชื้อจากการถูกยุงกัด ทั้งนี้หากผู้เดินทางมายังไนจีเรีย หรือประเทศแถบแอฟริกาช่วงนี้ต้องฉีดวัคซีนป้องกัน

ปัจจุบันไข้เหลือง เป็นโรคประจำถิ่นของประเทศแถบแอฟริกาและทวีปอเมริกา ช่วงศตวรรษที่ 19 ไข้เหลืองก็ถูกยกระดับเป็นโรคติดต่อที่อันตรายที่สุดโรคหนึ่ง  

ขณะเดียวกัน ทาง WHO ระบุว่า ในแต่ละปีจะมีผู้ติดเชื้อไข้เหลืองทั่วโลกมากกว่า 130,000 ราย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึงราว 44,000 รายต่อปี และกว่าร้อยละ 90 เป็นผู้เสียชีวิตที่อาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกา

เกาะติดข่าวที่นี่