วัคซีนโควิด-19 ประสิทธิภาพลดลง ในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง จำเป็นต้องฉีดเข็มที่ 3
Italy: ผลการศึกษา 3 ชิ้นของอิตาลี พบว่า วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ประสิทธิภาพน้อยลงในกลุ่มคนที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ซึ่งบรรดานักวิจัยที่ทำการศึกษา บอกว่า ตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นในการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็ม 3 หรือบูสเตอร์ สำหรับกลุ่มคนที่เปราะบางกลุ่มนี้
เมื่อวันจันทร์ (4 ตุลาคม) โรงพยาบาลบัมบีโน เกซู ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งทำการศึกษาขนาดเล็ก 3 ชิ้นนี้ ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า ผลการศึกษาพบว่า โดยเฉลี่ยแล้ว 30% ของผู้ป่วยที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่อง ไม่พัฒนาภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิดหลังรับวัคซีน
ส่วนที่เหลือ 70% สนองตอบต่อวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังรับวัคซีนเข็มที่ 2 แต่การสร้างภูมิคุ้มกันก็อยู่ในระดับที่น้อยกว่ากลุ่มคนที่มีร่างกายแข็งแรง และมีความแตกต่างกันในแต่ละกลุ่ม
การศึกษาครั้งนี้ ดำเนินการกับกลุ่มผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องชั้นต้น จำนวน 21 คน, เด็กและคนหนุ่มสาวที่ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจและปอด 34 คน และคนหนุ่มสาวที่ได้รับการปลูกถ่ายตับและไต 45 คน โรงพยาบาลระบุว่า ผลการศึกษาชี้ชัดให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มระดับการป้องกันของกลุ่มเปราะบางที่สุดนี้ด้วยการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิ
การเผยแพร่ผลการศึกษาชิ้นนี้ มีขึ้น ขณะที่สำนักงานยายุโรป หรือ EMA คาดว่าจะตัดสินใจเสนอให้มีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 หรือไม่
ทั้งนี้ ยังไม่มีความคิดเห็นอย่างเป็นเอกฉันท์ในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ว่า การฉีดวัคซีนเข็ม 3 ควรจะดำเนินการในวงกว้างเพียงใด ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร และอิสราเอล ได้เดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไปแล้ว แต่มีเพียงอิสราเอลเท่านั้น ที่กำลังฉีดวัคซีนเข็มพิเศษนี้ให้ประชาชนทุกกลุ่ม