ตร.ไล่ล่า 'ไอ้เกร็ก' คนร้ายก่อเหตุ 7 คดี ยิงใส่สยบไพรี 100 นาย เปิดทางหนี แสบจอดรถตบตา
ตำรวจไล่ล่า 'ไอ้เกร็ก' คนร้ายก่อเหตุ 7 คดี ยิงใส่สยบไพรี 100 นาย เปิดทางหนี แสบจอดรถตบตาไว้ในสวนยางพารา เจ้าหน้าที่เช็กวงจรปิดหาเส้นทาง
กรณี เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รองผู้บัญชาการสืบสวนสวนตำรวจภูธรภาค9 พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสยบไพรี สำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ชุดปราบปรามยาสเสพติดตำรวจภูธรพัทลุง เกือบ 100 นาย เข้าปิดล้อมรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ชะมวง อ.ควน จ.พัทลุง
หลังสืบทราบว่า นายประดิษฐ์ หรือเกร็ก มุสิกะสงค์ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ค้ายาเสพติด และมือปืนรับจ้าง ได้มาเช่ารีสร์อตในพื้นที่ พร้อมพวก ทั้งชายหญิง รวม 5 คน โดยเจ้าหน้าที่วางกำลังปิดล้อม แต่นายประดิษฐ์ ขับรถเก๋งสีขาว ทะเบียน กข.48 นครศรีธรรมราช ขับออกมาจากรีสอร์ตอย่างใจเย็นหลบหนี ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่บี้ติดตามจนเกิดการยิงต่อสู้ แต่สุดท้ายหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
ล่าสุด ช่วงบ่าย และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 พัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองปราบปราม 9 และเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงปิดล้อมในพื้นที่ ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง หลังพบเบาะแสคนร้ายนำรถคันที่หลบหนีแอบกบดานในพื้นที่
โดยเจ้าหน้าที่พบรถเก๋งต้องสงสัยว่าเป็นรถที่ใช้หลบหนีจอดทิ้งในสวนยางพารา ซึ่งเป็นรถรุ่น และ ยี่ห้อเดียวกัน โดยจากการคาดการของเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะนำมาจอดทิ้งไว้เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นให้ตำรวจไขว้เขว ในเรื่องเส้นทางการหลบหนี
แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าไม่ใช่รถคันที่คนร้ายใช้ขับหลบหนี แต่เป็นรถที่ตกแต่งให้เหมือนกัน และผู้ที่นำรถมาใช้เป็นผู้ต้องหา 1 ใน 5 คนร้ายที่ขับหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด
โดยพบอีกว่ารถเก๋งคันดังกล่าว ทะเบียน กฉ. 734 ตรัง เป็นรถที่เจ้าของได้แจ้งความหายไว้ที่ จ.ตรัง หลังถูกผู้เช่าชื้อแอบนำไปจำนำแล้วหลุดก่อน 1 ใน 5 ผู้ต้องหานำมาครอบครองและใช้ในพื้น อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง
ขณะเดียวกันในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ทำการสืบสวนดูกล้องวงจรปิดเส้นทางที่ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายหลบหนีพบว่า รถคันดังกล่าวขับหลบหนีออกไปจากจ.พัทลุง และมุ่งหน้าไปทางจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้วก็หายไป