รีเซต

ดัชนีการเมืองไทยทรงตัว ปชช.ปลื้ม “คนละครึ่งพลัส” พยุงแต้มเศรษฐกิจ

ดัชนีการเมืองไทยทรงตัว ปชช.ปลื้ม “คนละครึ่งพลัส” พยุงแต้มเศรษฐกิจ
TNN ช่อง16
2 พฤศจิกายน 2568 ( 12:21 )
14

วันนี้ (2 พ.ย. 68) ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดจาก สวนดุสิตโพล ประจำเดือนตุลาคม 2568 ชี้ให้เห็นว่า คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยยังคง "ทรงตัว" จากเดือนก่อนหน้า ด้วยคะแนนเฉลี่ย 4.02 คะแนน สะท้อนสภาวะที่ประชาชนกำลัง "เฝ้าดูแต่ยังไม่มั่นใจ" ต่อการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ แม้จะมีความพยายามเร่งขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ แต่ประเด็นร้อนแรงอย่างความขัดแย้งชายแดน, ปัญหาสแกมเมอร์, และประเด็นบันทึกข้อตกลง (MOU) แรร์เอิร์ธ ได้กลายเป็นปัจจัยฉุดรั้งความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ด้านความโปร่งใสของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ

MOU แรร์เอิร์ธ - สแกมเมอร์”  ฉุดคะแนนความโปร่งใส

ตัวชี้วัดที่น่ากังวลที่สุดในเดือนตุลาคม คือ การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันและความโปร่งใส ซึ่งได้รับคะแนนต่ำสุดเพียง 3.58 คะแนน นางสาวเบญจพร พึงไชย ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิเคราะห์ว่า คะแนนที่ตกต่ำนี้เป็นผลพวงโดยตรงจากสถานการณ์ความขัดแย้งที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ลุกลามไปสู่ปัญหาใหญ่ระดับชาติ ทั้งเรื่อง "สแกมเมอร์" การฟอกเงิน และการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่รัฐมนตรีมีชื่อพัวพันกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นในวาระแห่งชาติ

นอกจากนี้ การที่ประชาชนไม่ได้รับทราบข้อมูลที่ชัดเจนล่วงหน้าเกี่ยวกับ MOU แรร์เอิร์ธ ก็ยิ่งตอกย้ำภาพความไม่โปร่งใสของรัฐบาลในสายตาประชาชน ทำให้ดัชนีภาพรวมได้รับผลกระทบตามไปด้วย

ฝ่ายค้านทำคะแนนพุ่ง - "รักชนก ศรีนอก" โดดเด่น

ในทางกลับกัน ผลงานของฝ่ายค้าน กลับเป็นตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุดถึง 4.60 คะแนน และมีคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าประชาชนกำลังพึ่งพาฝ่ายค้านในการทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล

นักการเมืองฝ่ายค้านโดดเด่น: นางสาวรักชนก ศรีนอก มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือน ด้วยคะแนนร้อยละ 37.85

ผลงานฝ่ายค้านชื่นชอบสูงสุด: คือการ "ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล" ด้วยคะแนนร้อยละ 53.34

"คนละครึ่งพลัส" ตัวช่วยเดียวของรัฐบาล

แม้รัฐบาลจะเผชิญแรงกดดันด้านความโปร่งใส แต่มีเพียงผลงานเดียวที่ช่วยพยุงดัชนีความเชื่อมั่นไว้ได้ คือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบสูงสุด: คือการ "เปิดใช้จ่ายคนละครึ่งพลัส" ซึ่งได้รับความชื่นชอบสูงถึงร้อยละ 64.42

นางสาวเบญจพร ชี้ว่า ผลงานด้านนโยบายประชานิยมอย่าง "คนละครึ่งพลัส" อาจเป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้คะแนนดัชนีโดยรวมของรัฐบาลไม่ลดลง แต่ยังคงที่ในเดือนนี้

ในด้านนักการเมืองรัฐบาลที่ได้คะแนนบทบาทโดดเด่นสูงสุดคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 48.01 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเร่งขับเคลื่อนนโยบายที่ได้รับความสนใจและการพยายามคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

สัญญาณเตือนเสถียรภาพก่อนเลือกตั้งปีหน้า

ประธานสวนดุสิตโพลระบุว่า สถานการณ์ดัชนีที่ "ทรงตัว" แต่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจของประชาชน เป็นภาพรวมที่รัฐบาลไม่ควรนิ่งนอนใจ

นักวิเคราะห์เตือนว่า หากรัฐบาลยังไม่สามารถแสดงออกถึงความโปร่งใสที่ชัดเจน และไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งใหญ่ ๆ ที่เชื่อมโยงกับความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติได้อย่างเด็ดขาด อาจส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนลดลงอย่างรวดเร็ว และกระทบต่อ เสถียรภาพของรัฐบาลในระยะยาว รวมถึงผลการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้า

การบ้านสำคัญของรัฐบาลในเดือนถัดไปจึงไม่ใช่เพียงแค่การขับเคลื่อนนโยบาย แต่คือการแสดงความจริงใจและความโปร่งใสต่อสาธารณะ เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นที่กำลังถูกสั่นคลอนอย่างหนักจากปัญหาที่ประชาชนมองว่าเป็น "วาระแห่งชาติ"

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง