'คมนาคม'จับตา"พายุโนอึล"เตรียมพร้อมรับมือทั้งทางบก-เรือ-อากาศ
วันนี้ (18 ก.ย.63) นายจรุณ มีสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า กรมท่าอากาศยานได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อติดตามและเตรียมความพร้อมรองรับสาธารณภัยกรมท่าอากาศยาน ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศแจ้งเตือนอิทธิพลของพายุโซนร้อน "โนอึล" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องและอาจส่งผลให้เกิดดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ในระหว่างช่วงวันที่ 18 - 20 กันยายน 2563นั้น
กรมฯได้มีการประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับท่าอากาศยานในสังกัด ที่คาดว่าจะอยู่ในเส้นทางของพายุโนอึล ได้แก่ ท่าอากาศยานสกลนคร นครพนม อุดรธานี เลย อุบลราชธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด และแพร่ เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกัน และติดตามสถานการณ์ พร้อมรายงานให้ผู้โดยสารทราบกรณีเกิดสถานการณ์ โดยผู้โดยสารสามารถติดตามข่าวสารของกรมท่าอากาศยานได้ผ่านทาง Facebook Fanpage : Department of Airports และขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารให้เผื่อเวลาในการเดินทางมาท่าอากาศยาน เพื่อให้ทันต่อการเดินทางตามตารางการบินที่กำหนดไว้
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ทล.ได้สั่งทุกแขวงทางหลวง จำนวน 104 แขวง หมวดทางหลวง จำนวน 581 หมวด รวมถึงศูนย์สร้างทาง จำนวน 5 แห่ง (ลำปาง, หล่มสัก, ขอนแก่น, กาญจนบุรี, สงขลา) และศูนย์สร้างและบูรณะสะพาน จำนวน 4 แห่ง (พิจิตร, ขอนแก่น, ปทุมธานี, นครศรีธรรมราช) เตรียมพร้อม ทั้งเครื่องมือเครื่องจักร โดยเฉพาะเตรียมสะพานเบลี่ย์ (สะพานเหล็ก) กรณีหากเกิดทางขาด สะพานขาด และจัดเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยง ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. 63 หรือหากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.)
ขณะที่นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์คาดว่าจะส่งผลให้อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ จึงได้สั่งการด่วนที่สุดให้กรมเจ้าท่า(จท.)ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยให้จัดเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุประจำอยู่ในสำนักงานและกำชับให้เจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้หากเกิดสถานการณ์รุนแรงเกินที่จะรับมือได้ให้ประสานความร่วมมือจากจังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที รวมถึงให้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ผู้ประกอบการเรือ ชาวเรือที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย อย่างต่อเนื่อง
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE