24CS พลิกโฉมครั้งใหญ่ เปลี่ยนชื่อ-ชิงงานพันล.

#24CS #ทันหุ้น – 24CS ถือฤกษ์ดีเปิดประชุมผู้ถือหุ้น ขอเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น “ออริจิ้น โกลบอล เอมไพร์ ตัวย่อ EMPIRE เดินหน้าลุยโครงสร้างพื้นฐานด้านเทค-ชีวมวล-พลังงานสะอาด เล็งประมูลงานไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท ส่วนธุรกิจอาหารเสริมโตต่อ มุ่งสร้างมาร์จิ้นสูง ขยายสู่ตลาดโลก

               ภก.ดร.ปัณณวิชญ์  โชติเตชธรรมมณี  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ 24CS เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า เตรียมเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญในวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการประชุมผู้ถือหุ้น โดยมีวาระสำคัญคือการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น บริษัท ออริจิ้น โกลบอล เอมไพร์ ตัวย่อ EMPIRE พร้อมปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจครั้งใหญ่ เน้นการสร้างรากฐานที่มั่นคงด้วยเทคโนโลยี และการขยายตลาดสู่ระดับสากล เพื่อเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินและปรับปรุงอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้ดีขึ้น

** ปรับโครงสร้างใหม่

               “การประชุม ETM/EGM ในวันที่ 22 ตุลาคม ได้จะมีการเสนอปรับโครงสร้างและเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ ซึ่งการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะยังคงมีงานก่อสร้างอยู่ แต่จะเปลี่ยนรูปแบบไปสู่การทำโครงสร้างพื้นฐานรูปแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างจากงานก่อสร้างแบบดั้งเดิม (อิฐ หิน ดิน ทราย) แต่จะเน้นไปที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด เช่น การทำระบบ System ERP และการนำ AI เข้ามาช่วยในการจัดการ” ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ กล่าว  

               ทั้งนี้ บริษัทได้นำความรู้ความสามารถจากบริษัท TI ที่ซื้อเข้ามา ซึ่งเชี่ยวชาญด้าน Tech มาบูรณาการกับงานก่อสร้าง ทำให้สามารถสร้างระบบงานที่ทำงานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของธุรกิจก่อสร้างเดิม โดยการใช้ผู้รับเหมาช่วง (Subcontract) ทั้งหมด เพื่อลดค่าใช้จ่ายและทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น

               อย่างไรก็ตามได้มีความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก โดยมีการตั้งบริษัทใหม่ เพื่อทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกา และกำลังดำเนินการในเดือนหน้า โดยเป็นการร่วมมือกับ Distributor ในต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นตลาด Global เนื่องจากมองว่าขนาดของตลาดในประเทศไทยอาจเล็กเกินไป หากต้องการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

** ธุรกิจพลังงาน

               นอกจากนี้ ธุรกิจด้านพลังงาน ถือเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่กำลังเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะการทำชีวมวล (Biomass) ซึ่งสอดคล้องกับ พ.ร.บ. อากาศสะอาด ที่เพิ่งผ่านสภา ซึ่งขณะนี้บริษัทมีสัญญาระยะยาว 10 ปี กับ บริษัท โบตานี่ ซึ่งสร้างรายได้หมุนเวียน (Recurring Income) อยู่ที่ประมาณ 100-200 ล้านบาท โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 1-2 ล้านบาท (อาจสูงถึง 2 ล้านบาทขึ้นไป) จากการขายพลังงานไอน้ำและเชื้อเพลิง

               อีกทั้งยังอยู่ระหว่างขยายโครงการชีวมวล (Biomass) ไปยังโรงงานหนองโพธ์ และโรงเหล้า โดยเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเตามาเป็นการใช้เชื้อเพลิง Biomass (เปลือกไม้) และยังสามารถขายเป็น Carbon Credit ให้กับลูกค้าได้ เนื่องจากบริษัทใช้เครื่องจักรแบบไร้ควัน ไม่มีการปล่อยคาร์บอน

               ขณะที่ปัจจุบันบริษัทยังมีเดินหน้าประมูลอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่างานรวมไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท ขณะนี้กำลังรอผลการประมูลในหลายโครงการ และมีการเข้าไปหาโปรเจกต์เพิ่มเติมอีกหลายโครงการ

** อาหารเสริมโตต่อ

            สำหรับธุรกิจอาหารเสริม ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จของธุรกิจมี High Margin สำหรับ ผลิตภัณฑ์ดาวเด่น  คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของ ทาทา ยัง ชึ่งสามารถสร้างยอดขายได้อย่างโดดเด่น โดยทำยอดขายได้เกือบ 1 ล้านกล่อง ภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน

               ขณะที่ความสำเร็จนี้มาจากการเลือกพรีเซนเตอร์ที่เหมาะสม (ที่สามารถลดน้ำหนักได้จริง) และใช้การวิจัย (Research) รวมถึงงานวิจัยรองรับ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกำลังจะขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อทำการวิจัยขั้นสูง ซึ่งคาดว่าจะเป็นเจ้าเดียวในประเทศไทย