รีเซต

LEO ลุยธุรกิจใหม่มาร์จิ้นสูง ควักงบพันล้านซื้อกิจการ

LEO ลุยธุรกิจใหม่มาร์จิ้นสูง  ควักงบพันล้านซื้อกิจการ
ทันหุ้น
19 เมษายน 2566 ( 22:26 )
19

บิ๊กบอส LEO “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” มั่นใจปีนี้โตต่อเนื่อง รุกหนักธุรกิจใหม่ Non Freight ปั๊มมาร์จิ้นสูงถึง 40-45%  ทุ่มงบ 800 -1,000 ล้านบาท เดินหน้าลงทุนซื้อกิจการ-ร่วมทุนพันธมิตรเพิ่ม ผลักดันผลงานโตก้าวกระโดด

 

นายเกตติวิทย์   สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า มั่นใจแนวโน้มปี 2566 ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากปี 2565 ที่มีรายได้ 4,495.3 ล้านบาท  และกำไรสุทธิอยู่ที่ 304.6 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทจะเน้นการลงทุนธุรกิจที่เป็น Non Freight และเดินหน้าขยายธุรกิจหลายช่องทาง โดยปีนี้บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ที่ราว 800 -1,000 ล้านบาท เพื่อซื้อกิจการ และหาพันธมิตรร่วมทุนเพิ่ม หวังผลักดันผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดด

 

** เล็งลงทุนซื้อกิจการ

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาบริษัทมีการเจรจาเพื่อซื้อกิจการ (M&A) กับพันธมิตรที่เป็นบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกหลายประเทศ เช่น กัมพูชา สิงคโปร์ และสาธารณรัฐประชาชนจีน คาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 2/2566และสามารถรับรู้รายได้ภายในไตรมาสที่ 3-4 ปี 2566 


ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 15- 20% จากการที่บริษัทจะเน้นการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็น Non Freight มากขึ้น อาทิ ธุรกิจ Self Storage,Container Depot, Warehouse & Logistics Center และ Cold Chain Logistics เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นสูงมากกว่า 40-45% โดยบริษัทคาดว่ารายได้ของธุรกิจใหม่ที่เป็น Non Freight ปี 2566 คาดว่าจะมีรายได้เติบโต 548 ล้านบาท, ปี 2567คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 1,335 ล้านบาท

 

** บุ๊กรายได้ร่วมทุน

นอกจากนี้การเติบโตของปี 2566 ยังมาจากการรับรู้รายได้และกำไรของโครงการที่ร่วมลงทุนกับพันธมิตร JV และโครงการ M&A ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น อาทิ บริการ Freight, Non Freight และ New Business ในหลายๆ โครงการ อาทิ การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนโดยรถบรรทุกและรถไฟ, บริการตู้คอนเทนเนอร์สำหรับขนส่งผลไม้ไปยังประเทศจีน, บริการลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot) แห่งที่ 2 ซึ่งได้เปิดดำเนินการเรียบร้อย

 

และการพัฒนาธุรกิจ Cold Chain Logistics ที่บริษัท สหไทย เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT, การพัฒนาโครงการ Warehouse & Logistics Center ร่วมกับ บริษัท เอชเค แอสเซท แมเนจเมนท์ จำกัด ในเครือ บริษัท เสนา ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA, การเปิดบริการ Self  Storage แห่งที่ 3 และ 4, การพัฒนาธุรกิจตัวแทนในการซื้อสินค้าจากประเทศไทยเพื่อส่งให้ e-Commerce Platform ของ China Post และ Tengji ภายใต้ชื่อ บริษัท LEO Sourcing & Supply Chain ที่ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อสินค้าที่เป็นทุเรียนและผลไม้อื่นๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก

 

** ผลักดันกรีนโลจิสติกส์

อย่างไรก็ตามบริษัทจะเดินหน้ากรีนโลจิสติกส์ ตามกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ปัจจุบันอยู่ในเทรนด์และกำลังเป็นกระแส และจะพัฒนาให้บริการขนส่งและการกระจายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยใช้รถพลังงานไฟฟ้า ลดการใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดมลพิษหรือก่อให้เกิดขยะ มุ่งเน้นการลดมลพิษทางอากาศจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

 

บล.โกลเบล็ก ประเมินหุ้น LEO หรือ บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)  ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลประกอบการ Q1/2566 คาดเติบโตได้ดี โดยมีแรงหนุนจากการเริ่มรับรู้รายได้จากการขนส่งสินค้าทางรางไปยังประเทศจีน

 

ขณะที่ในปี 2566 บริษัทคาดว่าผลประกอบการยังเติบโตต่อเนื่อง จากโครงการ JV และการ M&A โดยบริษัทได้มีแผนลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่เป็น Non Freight ซึ่งมี Margin สูง 40-45%

 

ด้านความเห็นฝ่ายวิจัยมองว่า แม้ราคาหุ้นปัจจุบันจะสูงกว่าราคาเป้าหมายของ Bloomberg Consensus แต่ฝ่ายวิจัยแนะนํา “เก็งกําไร” เนื่องจากมองว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน Q4/2565 และทยอยฟื้นตัวดีขึ้นโดยได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีน ส่งผลให้มีคําสั่งซื้อผลไม้กลับเข้ามาเป็นจํานวนมาก

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง