ชาวกะเหรี่ยง หนีตายวุ่น ทหารเคเอ็นยู แจ้งเตือน ฮ.ทหารพม่า 6 ลำ บินมุ่งหน้าสู่หมู่บ้าน
ชาวกะเหรี่ยง หนีตายวุ่น ทหารเคเอ็นยู แจ้งเตือน เฮลิคอปเตอร์ทหารพม่า 6 ลำ บินมุ่งหน้าสู่หมู่บ้าน สั่งชาวบ้านหลบหนี-ทหารต้องออกจากฐาน
วันที่ 2 เม.ย.64 พ.ต.ปกคอ ผบ.ฐานฯสะคอท่า ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ หมู่ 1 อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่าเมื่อเวลา 12.30 น. รับแจ้งจากหน่วยข่าวกรองเคเอ็นยู (KNU) ว่า เมื่อเวลา 12.15 น. มีเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ทางทหาร แบบ MI 8 จำนวน 6 ลำ บินขึ้นจากฐานที่มั่นสนามบินเมืองตองอู มุ่งหน้าไปทาง จ.ผาปูน คาดว่าจะปฏิบัติการทางทหาร ต่อฐานที่มั่น ทหารกะเหรี่ยง KNU บริเวณพื้นที่ด้านทิศตะวันออกติดแม่น้ำสาละวิน
ทางกองบัญชาการค่ายกองพลน้อยที่ 5 จึงสั่งการให้ทหารในพื้นที่แจ้งเตือนประชาชน ให้ย้ายออกจากตัวหมู่บ้าน ไปหลบอยู่ในป่าทึบและหาทางหลบอยู่ในถ้ำหรือชะเงิบหินที่แข็งแรง ที่สามารถป้องกันสะเก็ดระเบิดได้
นอกจากราษฎรแล้ว สำหรับหน่วยทหารที่ประจำตามฐานฯต่างๆ ให้เคลื่อนย้ายกำลัง ออกไปวางแนวตั้งรับ บริเวณเส้นทางที่ทหารพม่าจะเคลื่อนที่เข้ามาหา
ทั้งนี้ในวันเดียวกัน ทหารพม่า กว่า 400 นาย พร้อมอาวุธหนัก เคลื่อนกำลังจากจังหวัดผาปูน มุ่งหน้าสู่พื้นที่เขตยึดครองของ ทหารกะเหรี่ยง สังกัดกองพลน้อยที่ 5 ที่วางกำลังตามแนวแม่น้ำสาละวินตั้งแต่พื้นที่ตรงข้ามบ้านสบเมย จนถึงบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
สำหรับราษฎรกะเหรี่ยงที่ลี้ภัยออกจากหมู่บ้านสะคอท่า ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบของไทย ที่ได้หลบหนีเข้ามาในไทยเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 และถูกผลักดันกลับทันที จำนวน 48 คน 8 ครอบครัว ได้พากันหลบหนีออกจากที่เดิมเนื่องจากอยู่ติดฐานฯของทหารกะเหรี่ยง เพราะกลัวจะถูกลูกหลง
สำหรับจุดสู้รบ ระหว่างทหารพม่า กับทหารกะเหรี่ยง อยู่บริเวณ ใกล้หมู่บ้านในเขต จ.ผาปูน ใกล้กับแม่น้ำสาละวิน จุดประทะเดินประมาณ 1 วัน หรือ 50 กม. ขณะนี้ราษฎรในกว่า 10 หมู่บ้าน หรือจำประมาณ 8,000 คน ได้พากันเดินเท้ามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก เพื่อมาอาศัยอยู่ตามแนวแม่น้ำสาละวินตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ เนื่องจากหวั่นเกรงอันตรายจากการโจมตีทางอากาศ ของทหารพม่า และอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มสะอาด โดยมีเด็กทารกอยู่ในกลุ่มผู้ลี้ภัยเป็นจำนวนมาก