เจาะ 7 หุ้น รพ. จัด 2 หุ้น Top Picks

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินหุ้น กลุ่มโรงพยาบาล โดยฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรสุทธิ Q2/66 สำหรับ 7 ร.พ.ที่ฝ่ายวิจัยวิเคราะห์ คือ BDMS, BH, BCH, CHG, RJH, PR9 และ EKH ** โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิรวมกัน 5.0 พันล้านบาท ลดลง -22%YoY, -14%QoQ การลดลง YoY เพราะรายได้จากโควิดลดลงไปมาก
โดยเฉพาะ ร.พ.ขนาดกลาง ส่วนการลดลง QoQ เป็นผลจากฤดูกาล (22 มี.ค.- 21 เม.ย.23 เป็นช่วงเดือนรอมฎอน ) ร.พ.ที่คาดว่าจะมี Norm profit Q2/6623 เติบโต YoY คือ BDMS, BH และ EKH เพราะรายได้เติบโต และมีเฉพาะ EKH ที่คาดว่าจะมี Norm profit ขยายตัวทั้ง YoY และ Q0Q จากรายได้เติบโตและมาร์จิ้นดีขึ้น
นอกจากนี้ คาดค่าใช้จ่ายขาย & บริหารต่อรายได้ใน Q2/66เพิ่มขึ้นเป็น 15.8%จาก 13.5% ใน Q2/65แต่ทรงตัวเทียบ Q1/66สัดส่วนที่เพิ่ม YoY มาจากคำใช้จ่ายสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น, ค่าใช้จ่ายการตลาดสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายบุคคลากรเพิ่ม
ฝ่ายวิจัยประเมินแนวโน้มผลประกอบการ Q3/66 คาดว่าจะดีขึ้น โดยมีปัจจัยกระตุ้นจากคนไข้ต่างชาติที่เข้ามามากขึ้น และคนไข้ไทยก็เพิ่มขึ้นด้วย ประเมินว่าผลประกอบการ ร.พ.งวด Q3/66จะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยคนไช้ต่างชาติที่เป็น Key growth คือ คนไข้จีน และ CLMV
ฝ่ายวิจัยมอง แม้ว่า Norm profit ปี 66 จะลดลง -11% YOY จากฐานสูงในปี65แต่สูงกว่าก่อนโควิดถึง 37%โดยร.พ.ขนาดกลางที่มีรายได้โควิดมาก เช่น BCH, CHG, RJH กำไรปี 2566 จะหดตัวแรงมาก -55%, -58%, -57%ส่วน PR9ลดลง - 11%แต่ร.พ.ใหญ่อย่าง BDMS, BH คาดว่าจะมี Norm profit เพิ่มขึ้น +5%และ +9%ในปี 2566รวมถึง EKH ที่ Norm
profit จะเพิ่ม + 15% ด้วยจากคนไข้จีนเช้ามามากขึ้นโดยเฉพาะมาใช้บริการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
ฝ่ายวิจัยมองระยะยาวไปได้ดี จากสังคมสูงวัยที่จะใหญ่ขึ้นเป็นลำดับ ทาง TDR วิเคราะห์ค่าใช้จ่ายในสุขภาพของคนไทยว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 436 พันล้านบาทในปี 2562 เป็น 1.41-1.83 ล้านล้านบาทในปี 2573 เพราะสังคมสูงวัยใหญ่ขึ้น, มี Medical Tourist มากขึ้น และคนทำประกันสุขภาพมากขึ้น
ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักลงทุน Neutral โดยมี BDMS และ EKH เป็นหุ้น Top Picks ทั้งนี้ BDMS (ราคาพื้นฐาน 34 บาท) ได้อานิสงค์มากจากคนไข้ต่างชาติฟื้นตัว มีเครือข่ายกว้างขวาง และมีบริการ Wellness ด้วย ส่วน EKH (ราคาพื้นฐาน 10 บาท) มีความโดดเด่นเรื่องการทำ IVF ซึ่งคนจีนนิยมเข้ามาทำกับร.พ.มาก
ยอดนิยมในตอนนี้
