ADB เร่งโกยยอดขาย รุก OEM - ลุยส่งออก

ADB ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังสดใส พุ่งเป้าโกยยอดขายสินค้ากาว ยาแนว และพลาสติกคอมปาวด์ กางแผนขยายงานรับจ้างผลิต-สร้างแบรดน์ตัวเอง พร้อมบุกตลาดแอฟริกาและเอเชียใต้ และเออีซี เร่งขยายกำลังผลิตเพิ่ม

นางสาวพรพิวรรณ   นิรมลเฉิดฉาย  กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) หรือ ADB เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังเน้นสร้างการเติบโตของยอดขาย สินค้ากลุ่มสินค้ากาวและยาแนว และพลาสติกคอมปาวด์ หรือ PVC ประกอบกับการรับจ้างผลิต (OEM) รวมถึงการสร้างแบรนด์ของตัวเอง

โดยภาพรวมคาดว่าทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังปี 2566 จะเติบโตได้ดีขึ้นมากกว่าครึ่งปี 2565 ขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนงานของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ และงานประมูลต่างๆ

** รายได้ครึ่งปีแรก

สำหรับรายได้ในประเทศในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายของเม็ดพลาสติกคอมปาวด์ ยังปรับตัวลดลงโดยเฉพาะตลาดภายในประเทศ ซึ่งความต้องการสินค้าของลูกค้าที่นำไปใช้ผลิตสายไฟสำหรับงานโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐบาลมีการชะลอตัว ส่วนบริษัทมีการเติบโตของเม็ดพลาสติกคอมปาวด์ที่ใช้สำหรับการแพทย์ โดยปีนี้มีการขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 2 สายการผลิตรวมเป็น 5 สายการผลิต ซึ่งปัจจุบันได้เดินเครื่องพร้อมใช้งานและรองรับการผลิตของลูกค้าหลัก ได้เเก่ บริษัท โชวะ โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด

ส่วนความคืบหน้าธุรกิจ ไบโอ คอมปาวด์ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์แพ็กเกจจิ้ง ที่สามารถย่อยสลายได้ โดยบริษัทเริ่มนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ลูกค้าบางส่วนเพื่อให้ทดลองใช้ และมีการร่วมกันพัฒนาสินค้า และมีการพูดคุยกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

** ตลาดส่งออกคึกคัก

โดยช่วง 6 เดือนเเรกของปีนี้การส่งออกกาวไปจำหน่ายยังต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น ทั้งตลาดในแอฟริกาและเอเชียใต้ รวมถึงประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยมีตัวเลขสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศอยู่ที่ 44% ส่วนยอดขายในประเทศอยู่ที่ 56% ซึ่งบริษัทยังมุ่งเน้นขยายตลาดกาวอุตสาหกรรมไปจำหน่ายยังต่างประเทศเพิ่มเติม ได้แก่ ประเทศไนจีเรีย ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท ประเทศปากีสถาน ในแถบเอเชียใต้ และเวียดนาม เมียนมา กัมพูชา เนปาล สิงคโปร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีสัดส่วนยอดขายแบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่ 70.82% นำไปใช้สำหรับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง เช่น สินค้าผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ ผลิตภัณฑ์ยาแนว เป็นหลักโดยผลิตภัณฑ์กลุ่มเม็ดพลาสติกคอมปาวด์มุ่งเน้นฐานลูกค้าที่ นำไปผลิตสายไฟฟ้าให้กับภาครัฐและงานทั่วไปรองรับงานก่อสร้างของเอกชน โดยเฉพาะเม็ดพลาสติกสำหรับเกรดใช้งานทั่วไป

** เจาะฐานก่อสร้าง

สำหรับยาแนวจะเน้นฐานลูกค้าไปในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและซ่อมแซมภาคเอกชน อาทิ อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้ากาวสำหรับยึดติดระหว่างรองเท้าหรือผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ซึ่งความต้องการในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอยูที่ 9.55%  สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ากาวและยาแนวขนาดเล็ก หรือ DIY Product ใช้ในการซ่อมแซมหรือตกแต่งรถยนต์และอุปกรณ์ในรถยนต์อยู่ที่ประมาณ 8.38% ส่วนที่เหลือใช้สำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 11.24%