ตำรวจสั่งปิดคลินิก หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอม ให้กับประชาชนหลายพันราย
ตำรวจเอกวาดอร์เข้าจับกุมศูนย์การแพทย์ทางเลือก ในเมืองกีโต เมืองหลวงของประเทศเอกวาดอร์ หลังทำการฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอมให้กับประชาชนหลายพันคน
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของเมืองกล่าวในแถลงการณ์ว่าพวกเขาได้ทำการสอบสวนพยานและคนที่เคยเข้าไปในศูนย์การแพทย์แห่งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า พวกเขาได้ทำการฉีดวัคซีนปลอมดังกล่าวไปแล้วมากกว่า 70,000 โดส
โดยศูนย์การแพทย์แห่งนี้ได้ใช้สารที่ไม่สามารถระบุได้ ฉีดให้กับผู้ประสงค์ฉีดวัคซีนในราคาเพียง 15 ดอลลาร์สหรัฐต่อเข็ม และกล่าวกับผู้รับวัคซีนดังกล่าวว่าภูมิคุ้นกันโรคโควิด-19 จะเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาฉีควัคซีนไปแล้ว 3 เข็ม รวมทั้งหมดแล้วพวกเขาจะต้องจ่ายเงินให้กับศูนย์ 45 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,400 บาท
อย่างไรก็ตามเจ้าของศูนย์การแพทย์แห่งนี้อ้างว่าไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอมให้กับประชาชน แต่ที่ฉีดเข้าไปนั้นเป็น "วิตามินและซีรุ่ม" เพื่อช่วยกระต้นภูมิคุ้มกันให้กับผู้ป่วย และยังช่วยในการรักษาโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย แต่ดร. ลูเซีย เพนนาฟิล เจ้าของศูนย์การแพทย์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าเธอกำลังรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยการรักษาด้วยเลเซอร์และแสงอินฟราเรด 'ฉันได้รักษาผู้ป่วยโคโรนาไวรัสประมาณ 20,000 คนที่นี่' เธอกล่าว
ทั้งยังมีรายงานว่าชาวบ้านในพื้นที่ คนไข้ ลูกค้าของเธอได้ออกมาปกป้องและกล่าวว่าเธอเป็นผู้ที่ช่วยชีวิตพวกเขาหลังจากที่พวกเขาติดไวรัสโคโรนา 'เราได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์ทางเลือก เธอเป็นคนดีและรักษาพวกเรา 12 คนที่ติดโควิด -19 ให้หายขาด' ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าว ซึ่งในตอนนี้ศูนย์การแพทย์แห่งนี้คงต้องปิดไปก่อนเพื่อรอการสอบสวน
ซึ่งที่ผ่านมานั้นเอกวาดอร์กลายเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของโรคในละตินอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2020 ที่ผ่านมา จนมาถึงในตอนนี้ประเทศเอกวาดอร์มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 242,146 ราย และเสียชีวิตกว่า 15,000 รายแล้ว
และในขณะนี้เอกวาดอร์ได้อนุญาตให้ใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 2 ชนิด คือ Pfizer / BioNTech และ Oxford – AstraZeneca ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ให้คำมั่นที่จะฉีดวัคซีนให้กับผู้ใหญ่ทุกคนโดยไม่เสียค่าช่จ่ายภายในสิ้นปีนี้ แต่ในขณะเอกวาดอร์จะยังไม่มีการฉีดวัคซีนในวงกว้าง จนกว่าจะถึงเดือนมีนาคมเนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการจัดหาวัคซีน
หลังจากที่มีการเปิดตัววัคซีนโควิด-19 ก็พบว่าเริ่มมีการหลอกลวงประชาชนเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งได้รับรายงานจากหลายประเทศ อย่างในสหรัฐอเมริการ เอฟบีไอได้ออกมาเตือนถึงการหลอกลวงของมิจฉาชีพในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล ส่งข้อความออนไลน์ หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์แล้วอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ
และองค์การอนามัยโลกยังเคยออกมาเตือนว่าในช่วงที่ผ่านมามีเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนและโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากนอกจากนี้ยังพบคอลัมน์ขายวัคซีนปลอมจำนวนมาก โดยอ้างว่ามาจากผู้เชี่ยวชาญหรือสถาบันวิทยาศาสตร์พร้อมเก็บข้อมูลของเหยื่ออีกด้วย ทั้งนี้การฉีควัคซีนปลอมนั้นนอกจากจะไม่สามารถป้องกันหรือรักษาอาการเจ็บป่วยได้แล้ว วัคซีนปลอมบางตัวก็อาจส่งผลกระทบต่อตัวผู้ที่รับวัคซีนปลอมได้ และอาจจะอันตรายถึงชีวิต