รีเซต

‘บิ๊กตู่’ จี้ครม.เร่งสางปัญหาหนี้ประชาชน ขีดเส้น 6 เดือนเห็นผลระยะสั้น

‘บิ๊กตู่’ จี้ครม.เร่งสางปัญหาหนี้ประชาชน ขีดเส้น 6 เดือนเห็นผลระยะสั้น
ข่าวสด
15 มิถุนายน 2564 ( 15:38 )
67

 

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ได้นำเรื่องปัญหาหนี้สินของประชาชนเสนอที่ประชุมครม.รับทราบ ตนมองเห็นถึงปัญหาของประเทศ ถ้าประชาชนมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก มีหนี้ตั้งแต่อายุน้อย จะมีผลต่อทั้งชีวิตของเขา ซึ่งเราพยายามแก้ไขมาโดยตลอด แก้ไขเรื่องหนี้นอกระบบที่ต้องเข้มงวดให้มากยิ่งขึ้น ให้ปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ

 

 

 

วันนี้ต้องแก้ปัญหาให้ครอบคลุมทั้งระบบ ที่ร้อนใจมากที่สุดคือหนี้ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 3.6 ล้านคน ผู้ค้ำประกัน 2.8 ล้านคน หนี้ครู/ข้าราชการ 2.8 ล้านบัญชี หนี้เช่าซื้อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ 27.7 ล้านบัญชี หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 49.9 ล้านบัญชี ปัญหาหนี้สินอื่นๆ ของประชาชน 51.2 ล้านบัญชี โดยมีการกำหนดมาตรการออกมา ทั้งมาตรการระยะสั้น และมาตรการระยะต่อไป

 

 

สำหรับมาตรการระยะสั้น จะทำให้เกิดขึ้นให้ได้ภายใน 6 เดือน อาทิ การลดภาระดอกเบี้ยของประชาชนและสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ ที่อยู่ในความดูแลของสํานักงานเศรษฐกิจการคลังกระทรวงการคลัง(พิโก้) สินเชื่อสินเชื่อรายย่อยเพื่อผู้ประกอบอาชีพภายใต้กำกับ(นาโน) ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ของครู ข้าราชการ และสหกรณ์ ปรับรูปแบบการชำระหนี้ คุ้มครองความเป็นธรรมให้ประชาชนที่เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยทบทวนเพดานอัตราดอกเบี้ยและการกำกับดูแลบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อจำนำทะเบียน

 

 

นอกจากนี้ ยังพิจารณาการไกล่เกลี่ยหนี้สินเพื่อลดการดำเนินคดีกับประชาชน เช่น หนี้กยศ. หนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หนี้สหกรณ์ และให้มีการเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ให้ผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอี จัดให้มี ซอฟต์โลนสำหรับเอสเอ็มอีที่เป็นหนี้เสีน เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ การเพิ่มจำนวนโรงรับจำนำและโรงรับจำนอง เพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อย แต่มีที่ดินจำนวนจำกัดอยู่ เพื่อจะเข้าถึงสินเชื่อเหล่านี้

 

 

ส่วนมาตรการระยะต่อไป คือการเร่งส่งเสริมการแข่งขันให้อัตราดอกเบี้ยถูกลง การให้ความช่วยเหลือเด็กรุ่นใหม่ คนเกษียณที่มีภาระหนี้สิน โดยจะต้องออกมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายเรื่องที่อยู่อาศัย ค่าเดินทางระบบขนส่งมวลชนในราคาถูก การจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่ เพิ่มการดูแลสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อรายย่อยเป็นการเฉพาะ การจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางธุรกิจและการเงินเพื่อชะลอการฟ้อง อำนวยความสะดวกให้การฟื้นฟูหนี้รายบุคคล ที่มีเจ้าหนี้หลายราย เป็นต้น
สำหรับหนี้ครัวเรือนในปัจจุบัน มีข้อมูลว่า ก่อนปี 2557 มีอัตราเพิ่มขึ้นเดือนละ 88,000 ล้านบาท แต่จากปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มีการเพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 5 หมื่นล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง