รีเซต

เงินบาทเช้านี้ 3 ก.ย. 2568 เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” ที่ระดับ 32.32 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ 3 ก.ย. 2568 เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” ที่ระดับ 32.32 บาท/ดอลลาร์
TNN ช่อง16
3 กันยายน 2568 ( 08:24 )
7

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  32.32 บาท/ดอลลาร์ "แข็งค่าขึ้น เล็กน้อย" จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  32.41 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาทยอยแข็งค่าขึ้น เข้าใกล้โซน 32.30 บาท/ดอลลาร์ อีกครั้ง (แกว่งตัวในกรอบ 32.30-32.42 บาท/ดอลลาร์) หลังในช่วงบ่ายวันก่อนหน้า เงินบาทเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าเข้าใกล้โซน 32.40-32.50 บาท/ดอลลาร์ ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ซึ่งได้อานิสงส์จากประเด็นความกังวลเสถียรภาพการคลังของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะอังกฤษ 

ความกังวลดังกล่าวได้กดดันให้เงินปอนด์อังกฤ (GBP) อ่อนค่าลงหนัก นอกจากนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ดังกล่าว ก็มีส่วนกดดันให้ ราคาทองคำปรับตัวลงเช่นกัน อย่างไรก็ดี ภาพดังกล่าวได้เปลี่ยนไปบ้างในช่วงคืนที่ผ่านมา หลังเงินดอลลาร์ เผชิญแรงกดดันบ้าง จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาผสมผสาน โดย ดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรม ในเดือนสิงหาคม ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 48.7 จุด ทว่าต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ที่ระดับ 49.0 จุด 

นอกจากนี้ ดัชนีในส่วนการจ้างงาน แม้จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 43.8 จุด แต่ก็ยังต่ำกว่าคาด และต่ำกว่าระดับ 50 จุด สะท้อนว่า ภาคการผลิตสหรัฐฯ ยังคงมีการลดการจ้างงานต่อเนื่อง นอกจากนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาผสมผสานดังกล่าว กอปรกับความกังวลเสถียรภาพการคลังของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ซึ่งกดดันให้บรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) และแรงซื้อทองคำแบบไล่ราคาของผู้เล่นในตลาด ได้หนุนให้ราคาทองคำ (XAUUSD) ปรับตัวสูงขึ้น ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์แถวโซน 3,540 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำดังกล่าวก็มีส่วนหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเช่นกัน
 

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อย่าง ยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (JOLTS Job Openings) ในเดือนกรกฎาคม รวมถึง ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) และยอดคำสั่งซื้อภาคโรงงาน (Factory Orders) ในเดือนกรกฎาคม 

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจจากบรรดาเฟดสาขาต่างๆ (Fed Beige Book) และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด 

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาท (USDTHB) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยอาจยังติดโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับก็ไม่ควรจะต่ำกว่าโซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์ ไปมากนัก โดยเฉพาะในช่วงก่อนตลาดรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ (ไฮไลท์สำคัญ คือ ข้อมูลการจ้างงาน) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ได้อย่างมีนัยสำคัญ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง