รพ.กทม.มีห้องแล็บตรวจ 'โควิด-19' แล้ว 3 แห่ง อีก 1 แห่ง อยู่ระหว่างพัฒนา
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค.กทม.ครั้งที่ 56/2563 ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) ว่า วันนี้คณะทำงานด้านการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 รายงานต่อที่ประชุมถึงผลการปฏิบัติการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 เชิงรุก ในประชากรกลุ่มเสี่ยงและสถานที่เสี่ยง (Sentinel Surveillance) ด้วยการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในน้ำลาย ซึ่งกทม.ได้รับการสนับสนุนชุดทดสอบจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จำนวน 15,210 ชุด และต้องตรวจสอบกลุ่มเป้าหมายให้ครบภายในเดือนมิถุนายนนี้
“กทม.ได้เริ่มดำเนินการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ มาตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 นับถึงปัจจุบัน (7 มิถุนายน 2563) ได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้ว 7,255 ราย ผลการตรวจไม่พบเชื้อ 4,766 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 2,489 ราย คิดเป็นสัดส่วนการเก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้วประมาณร้อยละ 47 คงเหลือประมาณร้อยละ 53 ซึ่งจะสามารถเก็บตัวอย่างตรวจครบ 15,210 ราย ภายในเดือนนี้แน่นอน” พล.ต.ท.โสภณ กล่าว
ในส่วนคณะทำงานด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วย พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า ได้รายงานว่าภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 สำนักการแพทย์ กทม. ได้ให้โรงพยาบาลในสังกัด ปรับปรุงการให้บริการผู้ป่วยของโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ การรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลโดยการใช้ระบบ แพลทฟอร์ม “ไทยชนะ” เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งติดตั้งในโรงพยาบาลสังกัด กทม.ทุกแห่ง การแบ่งปันการใช้วัสดุ อุปกรณ์การแพทย์ระหว่างโรงพยาบาลในสังกัด การจัดตั้งคลินิกตรวจโรคระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) ในโรงพยาบาลสังกัด กทม.ทุกแห่ง โดยแยกส่วนออกจากการให้บริการผู้ป่วยทั่วไป การพัฒนารูปแบบการให้บริการรูปแบบใหม่ที่เหมาะสมโดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น การพัฒนาระบบการรักษาทางไกล Tele Medicine ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นต้น ประการสำคัญ คือ การดูแลให้บุคลากรทางการแพทย์มีความปลอดภัยในการปฏิบัติงานและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
“นอกจากนี้ คณะทำงานด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วย ยังได้รายงานที่ประชุมว่า โรงพยาบาลในสังกัด กทม.ได้พัฒนาระบบการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) โดยสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 และผ่านการทดสอบความชำนาญทางห้องแล็บ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สธ. เรียบร้อยแล้ว จำนวน 2 แห่ง คือ โรงพยาบาล (รพ.) ตากสิน และ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ทำให้ปัจจุบันสถานพยาบาลในสังกัด กทม. สามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้แล้ว 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.คณะแพทยศาสตร์และวชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช และ โรงพยาบาลทั้ง 2.แห่งข้างต้น ส่วนห้องแล็บ รพ.กลาง ซึ่งอยู่ในระหว่างการพัฒนา หากผ่านการตรวจรับรอง กทม.จะมีห้องแล็บตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 แห่ง” ผอ.ศบค.กทม. กล่าว