บิ๊กตู่ ปลุกคนไทย ถึงเวลาสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน เปลี่ยนขยะ ให้เป็นรายได้
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 25 พ.ค. หลังเป็น ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ ว่า การประชุม ครม.วันนี้ ได้มีการผลักดันแนวทาง โมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ในระดับชุมชน ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าให้กับชุมชนได้ 4 ล้านบาทต่อ ปีต่อหมู่บ้าน และลดขยะ-ลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก 37.5 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยมีขยะมูลฝอย ประมาณ 28 ล้านตันต่อปี วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ประมาณ 43 ล้านตันต่อปี (ข้อมูลปี 2562) หากบริหารจัดการไม่ถูกต้อง จะทำให้เกิดมลพิษตกค้างในสิ่งแวดล้อมตามมาในเรื่องนี้ รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาที่ต้นตอ ในระดับหมู่บ้านและชุมชน จึงได้นำโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกคน สามารถเปลี่ยนขยะ ให้เป็นรายได้มาใช้ โดยชุมชนสามารถเปลี่ยนขยะเป็นรายได้ โดยการ (1) คัดแยกขยะในครัวเรือน และภาคเกษตรกรรม และ (2) การสร้างนวัตกรรม หรือแปรรูปขยะมาใช้ประโยชน์
“ข้อมูลที่ผมอยากนำมาแชร์คือ 70% ของขยะเป็นวัสดุอินทรีย์ อีก 30% เป็นวัสดุรีไซเคิล ทั้งนี้ หากมีระบบคัดแยกขยะที่เหมาะสม วัสดุอินทรีย์เหล่านี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น หมักไบโอก๊าซเพื่อใช้แทนก๊าซหุงต้ม เลี้ยงหนอนเพื่อทำอาหารสัตว์ออร์แกนิคโปรตีนสูง หรือแปรสภาพเป็นปุ๋ยอินทรีย์เพื่อใช้ในการเกษตรแนวทางนี้ จะถูกนำไปประยุกต์ใช้ใน 80,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ ควบคู่กับการใช้แอปพลิเคชั่นที่พัฒนาโดยคนไทย ซึ่งมี Smart farmer ที่รัฐบาลส่งเสริมกว่า 3 แสนราย นำมาใช้และประสบความสำเร็จ สร้างมูลค่าเพิ่มสู่ชุมชนทั่วประเทศ กว่า 230,000 ล้านบาทต่อปี “นายกรัฐมนตรีกล่าว
พบ.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แนวทางโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน ระดับชุมชนนี้ นอกจากจะช่วยสร้างความร่วมมือในชุมชนแล้ว ยังกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก เพิ่มรายได้ให้ครัวเรือน และเกิดการจ้างงานใหม่ในชุมชนอีกด้วย เป้าหมายระยะยาว คือ การผลักดันให้เป็นเทศไทยเป็นศูนย์การผลิต bioplastic ของโลกและเป็นศูนย์ความเป็นเลิศ เรื่องการผลิตจุลินทรีย์อีกด้วย