อัปเดตหุ่นยนต์ Phoenix ถูกพัฒนาให้มีทักษะการใช้มือเก่งที่สุดในโลก
ปัจจุบันภาพของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์หรือหุ่นยนต์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์คงไม่ใช่เรื่องใหม่มากนัก แต่สำหรับหุ่นยนต์ฟีนิกซ์ (Phoenix) ของบริษัท แซงค์ทัวร์รี่ เอไอ (Sanctuary AI) นั้นแตกต่างออกไป เนื่องจากมันได้รับการอัปเดตความสามารถให้มีทักษะการใช้มือที่รวดเร็วมากขึ้น
โดย ซูซาน กิลเดิร์ต ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ได้แสดงความเห็นกับ Newatlas สื่อด้านเทคโนโลยีชั้นนำว่า ความสามารถในการใช้มืออย่างรวดเร็วของหุ่นยนต์ เกิดจากเทคโนโลยีข้อต่อไฮโดรลิกส์ ซึ่งเชื่อว่าดีกว่าแบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้งานในหุ่นยนต์ ออฟติมัส (Optimus) จากบริษัท เทสลา (Tesla) และหุ่นยนต์ฟิกเกอร์ (Figure) จากบริษัท โรโบติกส์ เอไอ (Robotics AI) นอกจากนี้ เธอยังบอกอีกว่า นี่คือหุ่นยนต์ที่ใช้มือได้เก่งที่สุด แต่ในอนาคตอาจจะมีงานวิจัยหรือหุ่นยนต์ตัวอื่นที่สร้างได้ด้วยระบบที่ง่ายกว่านี้
เป้าหมายของบริษัท Sanctuary AI คือ การสร้างหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ไม่ใช่แค่ใช้การควบคุมระยะไกลโดยมนุษย์ แต่มันสามารถคิดคำนวณเพื่อตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง จุดเด่นอีกจุดของหุ่นยนต์ฟีนิกซ์ (Phoenix) อยู่ที่ทักษะการใช้มือเหมือนมนุษย์และมีความเป็นธรรมชาติอย่างเหลือเชื่อ โดยทีมงานมองว่าเทคโนโลยีใช้มือของหุ่นยนต์นั้นมีความสำคัญมากกว่าทักษะอื่น ๆ จึงเลือกพัฒนาเทคโนโลยีใช้มือเป็นลำดับแรก ๆ
การออกแบบพัฒนาหุ่นยนต์ฟินิกซ์ (Phoenix) รุ่นใหม่ในปี 2024 ใช้ล้อในการเคลื่อนที่ ซึ่งอาจแตกต่างจากหุ่นยนต์ฟินิกซ์ (Phoenix) รุ่นที่เปิดตัวในปี 2023 ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีขาและความสูงรวม 173 เซนติเมตร น้ำหนัก 70 กิโลกรัม แขนของหุ่นยนต์หมุนอิสระได้ 25 องศา นอกจากนี้ทีมงานยังติดตั้งปัญญาประดิษฐ์โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) มีชื่อเรียกว่า Carbon เพิ่มเติมเพื่อช่วยให้หุ่นยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ก่อนหน้านี้หุ่นยนต์ฟีนิกซ์ (Phoenix) ได้รับการนำไปทดสอบความสามารถในการช่วยงานบ้าน ซักและพับผ้า การแยกขยะลงถัง การจัดการภาชนะต่าง ๆ ภายในบ้านให้มีความเป็นระเบียบ รวมไปถึงการนำไปทดสอบการใช้งานในร้านค้าปลีก รองรับการทำงานที่ซับซ้อนได้ 110 งาน ทั้งงานบริการลูกค้าด้านหน้าและงานจัดการคลังสินค้าด้านหลัง นับว่าเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกนำไปทดสอบการใช้งานมากที่สุดรุ่นหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ซูซาน กิลเดิร์ต กล่าวว่า การใช้ข้อต่อไฮโดรลิกส์เป็นแนวทางการในสร้างหุ่นยนต์ที่ไม่เหมือนใคร แต่ก็ยังมีจำกัด เนื่องจากมีโอกาสรั่วและมีราคาแพง ทางบริษัทจึงต้องวิจัยและพัฒนาต่อไป โดยให้เหตุผลว่า ระบบดังกล่าวจะนำมาซึ่งข้อดี 3 ประการ ได้แก่ ความแม่นยำ ความรวดเร็วและความแข็งแกร่ง
ที่มาของข้อมูล newatlas.com