จับตาพบเชื้อไวรัสหายากชนิดใหม่ที่โบลิเวีย หมอดับแล้ว 2 ราย

รายงานจากศูนย์วิจัยป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐฯ ค้นพบการแพร่เชื้อของไวรัสหายากติดต่อจากคนสู่คนที่ประเทศโบลิเวีย ณ ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 3 ราย
ไวรัสสายพันธ์ุดังกล่าวมีต้นกำเนิดมาจากสายพันธุ์เดียวกับโรคอีโบลาที่ผู้ป่วยจะแสดงอาการมีไข้ขึ้นสูง และมีเลือดออกจากอวัยวะภายใน ในขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังวิฉัยเชื้อไวรัสดังกล่าวอยู่ถึงแม้ว่าทั้งโลกกำลังประสบอยู่กับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 อยู่ก็ตาม
แหล่งข้อมูลได้เปิดเผยว่า ผู้ป่วย 2 รายแรกที่ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวได้แพร่เชื้อไวรัสไปยังบุคลากรแพทย์จำนวน 3 คน ในกรุงลาปาซ เมืองหลวงของโบลิเวีย ซึ่งคนไข้กลุ่มนี้และบุคลากรแพทย์จำนวน 2 คนได้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสดังกล่าวไปเมื่อไม่นานมานี้
นักวิทยาศาตร์คาดการว่าเชื้อไวรัสนี้มีเกิดขึ้นมานานแล้วแต่ยังไม่เคยถูกค้นพบ เนื่องจากเชื้อไวรัสหายากตัวนี้มีประวัติการระบาดมาแล้วในปี 2004 ที่เมืองชาแปร ห่างจาก 370 ไมล์จากเมืองหลวง นักวิทยาศาตร์คาดว่าหนูเป็นพาหะของไวรัสดังกล่าวและแพร่เชื้อสู่คนในเวลาต่อมา ซึ่งเชื้อไวรัสตัวนี้อาจร้ายแรงกว่าโคโรน่า เนื่องจากไวรัสที่แพร่ผ่านของเหลวในร่างกายจะง่ายต่อการเป็นพาหะมากกว่าเชื้อไวรัสที่อยู่ในอากาศ
อาการของเชื้อไวรัสตัวนี้คนไข้จะมีอาการปวดสั่นคล้ายอาการไข้ ปวดท้อง,อาเจียน, เลือดออกที่เหงือก, ผื่นขึ้นตามตัว และมีอาการปวดหลังกระบอกตา แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไม่มียารักษาโรคนี้ และผู้ป่วยจะได้รับการรักษาตามอาการเท่านั้น
ผู้อำนวยการโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ได้ประกาศเตือนว่าในอนาคตโลกของเราจะประสบปัญหาโรคระบาดจากสัตว์สู่คนอีกหลายชนิด ถ้ามนุษย์นั้นไม่เลิกซื้อขายและรับประทานสัตว์ป่า โดยในช่วง 100 ปีที่ผ่านมนุษยชาติต้องเจอกับเหตุการณ์โรคระบาดไปแล้วถึง 6 ครั้ง เช่น โรคไวรัสอีโบลา,โรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ โรคแอนแทรกซ์ และโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี
รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม
สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)
ขอขอบคุณที่มา theguardian.com