รัฐบาล เล็งใช้นศ.บินกลับไปเรียนต่อ สานสัมพันธ์ ไทย-ซาอุ ให้เหมือนเก่า
รัฐบาล เล็งใช้นักศึกษาที่บินกลับไปเรียนต่อ ซาอุดีอาระเบีย สานสัมพันธ์ ไทย-ซาอุ ให้กลับมาเป็นเหมือนเก่า ชี้เรื่องในอดีตเป็นผลกระทบจิตใจ
20 ก.ย. 2564 - จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบให้กับนักศึกษาไทยที่เรียนอยู่ต่างแดนในหลายประเทศ ต้องติดค้างกับมาตรการปิดประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาไทยที่ได้ศึกษาระดับปริญญาตรีที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ต้องติดค้างในประเทศไทยในระหว่างเดินทางกลับช่วงปิดเทอม จึงต้องศึกษาทางระบบออนไลน์ของมหาวิทยาลัยนานเป็นปี
ปัจจุบันทางมหาวิทยาลัย แจ้งให้นักศึกษาเดินทางเข้ามาเรียนตามปกติ แต่เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยมีเงื่อนไขให้นักศึกษาที่จะเข้าเรียน ต้องผ่านการฉีดวัดซีน 2 เข็มก่อน จึงกลายเป็นประเด็นปัญหาความล่าช้าของการเว้นช่วงระหว่างวัดซีนเข็มแรกกับวัดซีนเข็มที่สอง จึงทำให้หลายหน่วยงานต้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นายกษิดิศ อาชวคุณ สมาชิกวุฒิสภา เดินทางลงพื้นที่เมืองปัตตานี เพื่อพบปะนักศึกษาไทยที่กำลังเดินทางไปเรียนต่อซาอุดีอาระเบีย พร้อมพบปะพูดคุยรับฟังสภาพปัญหาทางครอบครัวของนักศึกษา เพื่อยกระดับการแก้ปัญหาเยาวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการสานสัมพันธ์ไมตรีที่ดีระหว่าง ไทย - ซาอุดีอาระเบีย
หลังจากหลายปีที่ผ่านมาได้เกิดกรณี คดีขโมยเครื่องเพชรราชวงศ์ไฟซอลแห่งราชวงค์ซาอุดีอาระเบีย โดยลูกจ้างชาวไทย เมื่อปี 2532 ที่ผ่าน ทางรัฐบาลไทย ภายใต้การนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความหวังว่าจะสานสัมพันธ์อันดีงาม ให้กลับคืนมาเช่นในอดีต
นายกษิดิศ กล่าวว่า อยากให้น้อง ๆ ได้มีโอกาสเป็นยุวทูต นำสิ่งที่ดี ๆ ในพื้นที่ของเราไปถ่ายทอด เป็นมิตร และเปลี่ยนกันให้เขามาสร้างสานสัมพันธ์ ซึ่งรัฐบาลทั้งในอดีตและรัฐบาลปัจจุบัน พยายามจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ดีให้กลับมา ตอนนี้ก็มีท่าทีที่ดีขึ้นในเชิงบวก
สำหรับปัญหาในอดีต อย่างที่หลายคนทราบดี ว่าเกิดปัญหาอะไร เป็นเรื่องของผลทางจิตใจ เราต้องเข้าใจประเทศเขาด้วย แต่เราก็มีความหวัง ตามที่รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะพยายามสานต่อมาตลอด
ในส่วนของนศ. กลุ่มนี้ ก่อนที่จะเดินทางไปเรียนต่อซาอุดีอาระเบีย จะได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีก่อนเดินทาง ได้พูดกับนายกฯโดยตรง ปัญหาต่าง ๆ ที่อยากให้ทางนายกฯช่วยอย่างไร ก็จะได้คุยกัน