KEX กสิกรไทย คาด Q2/66 ยังขาดทุน-แนวโน้มครึ่งปีหลังไม่สดใส

บล.กสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX โดยคาดว่างบการเงินงวดไตรมาส 2/66 จะขาดทุนปกติอยู่ที่ 703.2 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 2/65 ขาดทุนปกติที่ 732.4 ล้านบาท และเทียบกับไตรมาส 1/66 ที่ขาดทุนปกติอยู่ที่ 787.5 ล้านบาท ซึ่งจากการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น และค่าใช้จ่ยในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ลดลง ซึ่งจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่นักลงทุนสัมพันธ์ของ KEX มีประเด็นสำคัญ ได้แก่ ปริมาณการส่งพัสดุลดลงเล็กน้อย จากไตรมาสก่อน , รายได้ต่อพัสดุลดลงเล็กน้อย , ต้นทุนต่อพัสดุเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และ SG&A เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 

ฝ่ายวิจัยกสิกรไทย คาดแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังของ KEX ยังคงไม่สดใส เนื่องจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่อ่อนแอลง และบริการจดส่งพัสดุที่รุนแรงมากขึ้นชองแพลตฟอร์ม e-marketplace โดยฝ่ายวิจัยมีมุมมองต่อแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของ KEX ว่า รายได้ต่อพัสดุน่าจะเริ่มคงที่และต้นทุนต่อพัสดุน่าจะปรับตัวลง ส่งผลให้ขาดทุนต่อพัสดุน้อยลง อย่างไรก็ตาม การทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กลับมาสู่ภาวะปกติและบริการจัดส่งพัสดุที่รุนแรงมากขึ้นของแพลตฟอร์ม e-marketplace เช่น Shopee และ Lazada เป็นต้น ยังคงสร้างแรงกดดันต่อปริมาณการจัดส่งของ KEX โดยสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยดังกล่าว อาจยืนยันมุมมองของฝ่ายวิจัยที่ว่าจุดคุ้มทุนของกำไรสุทธิของ KEX ไม่น่าจะเกิดขึ้นจนกว่าจะถึงไตรมาส 4/67 

นอกจากนี้ฝ่ายวิจัย มองว่าสถานะทางการเงินของ KEX อ่อนแอลง แม้ว่าจะยังอยู่ในสถานะปลอดหนี้ก็ตาม ด้วยสัดส่วนเงินสดต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อไตรมาสที่ 700-1,000 ล้านบาท และสถานะเงินสดส่วนเกินที่ 1.8 พันล้านบาท คาดว่า KEX จะเพิ่มหนี้เพื่อเป็นการจัดหากระแสเงินสดอิสระที่ติดลบได้เร็วขึ้น 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำขายหุ้น KEX ให้ราคาเป้าหมายที่ 9.54 บาทต่อหุ้น เนื่องจากแนวโน้มที่ไม่สดใสในครึ่งปีหลัง, ระยะเวลาคุ้มทุนกำไรสุทธิล่าช้าออกไป และการแข่งขันด้านราคาที่ยืดเยื้อ โดยฝ่ายวิจัยจะทบทวนประมาณการกำไรปีนี้ หลังการประชุมในนักวิเคราะห์ในวันที่ 10 ส.ค.นี้